นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ (Ammy The Bottom Blues) เส้นทางชีวิตของชายที่รักในเสียงดนตรีผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถ จากรั้วมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และอีกด้านในบทบาทของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ถูกคดีมาตรา 112 ในข้อหาเผาพระบรมฉายาลักษณ์
จุดเริ่มต้นของชื่อ ‘แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์’
นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือชื่อเล่น แอมมี่ (Ammy) อายุ 35 ปี เกิดวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2531 นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนด์ จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
แอมมี่เล่าว่าในวัยเด็กของตัวนั้น เป็นคนที่หลงใหลในเสียงดนตรีเป็นอย่างมาก และยังต้องมีกีตาร์ติดตัวไว้เสมอไม่ว่าเวลาจะไปที่ไหน ถึงขนาดที่ว่า ตอนที่ตัวแอมมี่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.6 ตัวเองเคยทำเพลงลงแผ่นซีดีเองในงาน Fat Festival, Indy in town แถมยังส่งเพลงที่ตัวเองแต่งไปเปิดที่คลื่นเพลง Fat Radio จนต่อมาผลงานเพลงได้เข้ารอบ Bedroom Artist of the Year ในงาน Fat Award ครั้งที่ 5 ทำให้ด้วยโอกาสและการไขว่คว้าตามฝันต่าง ๆ แอมมี่จึงได้ฟอร์มวงกับเพื่อน ๆ จนกลายเป็นเดอะบอตทอมบลูส์ (the bottom blues) ในที่สุด
ระยะเวลาผ่านไป วงเดอะบอตทอมบลูส์ได้พิสูจน์ตัวเองผ่าน อัลบั้มเพลงฮอตฮิตติดชาร์ตอย่าง “ถุงเท้าสีขาว ดวงดาว และความฝัน” และ“เบบี้ บูม” ที่มีเพลงชูโรงอย่าง 1 2 3 4 5 I Love You (วัน ทู ทรี โฟร์ ไฟฟ์ ไอ เลิฟ ยู) พร้อมตามมาด้วยซิงเกิ้ลสุดชิลทั้งสองเพลง ได้แก่ “พระเอก” และ”คนธรรมดา”
ต่อมาในปี 2556 หลังจากวงเดอะบอตทอมบลูส์ได้ยุบลง แอมมี่ได้เดินทางไปประเทศอเมริกาเพื่อตามหาแรงบันดาลใจ และได้กลับมา พร้อมกับเริ่มต้นการกำเนิดศิลปินเดี่ยวในตำนานในชื่อ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ผู้มีผลงานเพลงโดดเด่นมากมาย ทั้ง ยูยูยู จากซีรีส์ Ugly Duckling Series รักนะเป็ดโง่, เก็บรัก จากละคร คู่วุ่นลุ้นแผนรัก และ กำแพง ที่เป็นซิงเกลเดี่ยวซึ่งประพันธ์เนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเอง
เส้นทางชีวิตส่วนตัวและความรักของ แอมมี่
แอมมี่ได้รู้จัก ไอรดา ศิริวุฒิ “ไอด้า” นักแสดงและนางแบบชาวไทยเมื่อปี 2553 ซึ่งทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันราว 2 ปี จนสุดท้ายได้แต่งงานกันแบบไม่จดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2555 และในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 55 ไอด้า ได้คลอดลูกสาว ชื่อ ลัลลาเบล
เวลาผ่านไป แอมมี่และไอด้ามีปัญหาชีวิตคู่ที่ไม่ลงรอยกัน จึงได้ตัดสินใจเลิกรากันไปในปี 2557 โดยที่ยังเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกัน และช่วยกันเลี้ยงน้องลัลลาเบล
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมานี้ แอมมี่ ยังมีข่าวฉาวเรื่องคบกับ “เมรี” ลูกสาวนักร้องชื่อดังอย่าง “ปู พงษ์สิทธิ์” ถึงประเด็นการเลิกรากันที่ไม่ค่อยดีนัก จนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต บนโซเชียลมิเดียต่าง ๆ นา ๆ
อีกด้านหนึ่ง กับบทบาทนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
นอกจากอาชีพนักดนตรีสุดคูลแล้ว แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ยังเป็นที่รู้จักในภาพของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อประชาธิปไตย ในช่วงการประท้วงเมื่อปี 2563 – 2564 ซึ่งการแสดงออกของแอมมี่ในบทบาทนี้นั้นมีทั้ง การรณรงค์เดินประท้วงร่วมกับพี่น้องประชาชนร่วมอุดมการณ์ การสาดสีฟ้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปจนถึงการเผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 อีกด้วย
ซึ่งจากการกระทำเหล่านี้ ก็มีทั้งผู้ที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับหนุ่มแอมมี่ บ้างก็ว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปและเกินกว่าเหตุ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่ศาลอาญาได้ออกหมายจับแอมมี่ คดีเผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ ทรัพย์สินของทางราชการ และคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ม.112 ทำให้ตัวแอมมี่ได้ถูกจับกุมตัวไป ที่สุดท้ายจะได้รับการปล่อยตัวช่วงคราวมาในช่วงเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกัน เพื่อรอต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
ล่าสุด วันนี้ (27 พ.ค. 67) ในการนัดหมายครั้งที่ 3 ของศาลอาญา ที่ให้นายไชยอมร หรือ แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์ เข้ามารับฟังคำพิพากษาในคดีอาญามาตรา 112 คดีวางเพลิงเผาทรัพย์ และพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ ที่ผลสรุปคือเมื่อศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้ว ศาลอาญาได้ตัดสินให้ แอมมี่ ติดคุก 4 ปี ไม่รออาญา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาล เลื่อนอ่านคำพิพากษา ‘แอมมี่ บอตทอม บลูส์’ คดี ม.112 เป็น 27 พ.ค.
- ศาลสั่งจำคุก ‘แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์’ 4 ปี เผาพระบรมฉายาลักษณ์
- ‘ลูกเกด ชลธิชา’ โดนคุก 2 ปี คดี ม.112 แต่ได้ประกันตัว ไม่หลุด สส.
