ข่าวต่างประเทศ

อย่าทำ ก้างปลาติดคอ กลืนข้าวลงท้อง สุดท้ายล้ำไส้ทะลุ ต้องต่อทวารเทียม

‘ก้างปลาติดคอ’ เหตุการณ์ธรรมดาที่หลายคนเคยประสบพบเจอ แต่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แพทย์เตือนอย่าหากลืนอาหาร หรือดื่มน้ำตามเพื่อให้ก้างหลุด เพื่อความปลอดภัย

หลายคนคงเคยเผลอกลืนก้างปลาแล้วพยายามกลืนข้าวตามหรือดื่มน้ำส้มสายชูเพื่อให้ก้างปลาหลุดลงไป แต่รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นความเชื่อที่ผิดและอันตรายอย่างยิ่ง

Advertisements

ล่าสุดมีข่าวหญิงชาวจีนวัย 59 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เธอเผลอกลืนก้างปลาลงไปพร้อมกับอาหาร และแน่นอนว่าเธอพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยวิธีการต่าง ๆ ตามความเชื่อที่ได้รับมา กระทั่งวันรุ่งขึ้นเธอเริ่มรู้สึกปวดท้องบริเวณท้องน้อย แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร ผ่านไป 4 วันอาการปวดท้องของเธอเริ่มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น จึงตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาล

เมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว พบว่า มีก้างปลาทะลุลำไส้เล็ก ทำให้เยื่อบุช่องท้องอักเสบเฉียบพลัน แพทย์ต้องรีบผ่าตัดเพื่อนำก้างปลาออกเป็นการด่วน นอกจากนั้นหญิงชาวจีนผู้โชคร้ายรายนี้ยังต้องทำการเจาะช่องท้องเพื่อทำ “ทวารเทียม” โดยจะมีการเข้ารับการผ่าตัดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ภาพจาก : เว็บไซต์ ctwant

แพทย์เผยว่า มีคนไข้หลายรายที่เมื่อก้างปลาติดคอ มักจะรีบกลืนข้าวปั้น ดื่มน้ำ หรือน้ำส้มสายชูตาม ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายมาก เพราะก้างปลาที่เข้าไปในช่องท้องนั้นเปรียบเสมือนระเบิดเวลา หากทะลุปอดหรือหลอดเลือดแดงใหญ่ อาจถึงแก่ชีวิต

นอกจากนี้ ยังอาจทำให้กระเพาะหรือลำไส้ทะลุ เป็นฝีหนองบริเวณทวารหนักได้ ดังนั้น หากก้างปลาติดคอ อย่าพยายามกลืนอะไรตามเด็ดขาด ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อความปลอดภัย

ข่าวนี้ทำเอาชาวเน็ตจีนแตกตื่น แห่แชร์ประสบการณ์ตรง บ้างก็บอกว่า “แค่ก้างปลาเล็กๆ ทำไมถึงร้ายแรงได้ขนาดนี้” บ้างก็ว่า “ถ้าก้างปลาติดคอ ต้องรีบไปโรงพยาบาลเท่านั้น” เห็นแบบนี้แล้ว ต่อไปนี้เวลาทานปลา ต้องไม่ประมาท เคี้ยวให้ละเอียด ตรวจสอบให้ดีก่อนกลืน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะ

Advertisements
ภาพจาก : เว็บไซต์ ctwant

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงจาก : เว็บไซต์ ctwant

GIFT T.

Rewriter สาวจากรั้วสวนดุสิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์งานข่าวมากว่า 5 ปี ชื่นชอบการส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์ หวย และข่าวบันเทิง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้นักอ่านได้เห็นประเด็นรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button