เตือนลูกหลาน ‘ทรามาดอล’ ยาฮิตวัยรุ่นไทย ผสมน้ำอัดลม เสพถึงตาย
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ เตือนภัย “ยาทรามาดอล” หรือ “ยาเขียวเหลือง” เป็นยาอันตรายต้องใช้ภายใต้การควบคุมจากแพทย์ ใช้ผิดวิธีอาจทำให้เสพติด แนะนำหากไม่สามารถหยุดใช้ยาได้เองควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษา
ทรามาดอล (Tramadol) ยาแก้ปวด ที่ถูกวัยรุ่นใช้ในทางที่ผิด
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “ทรามาดอล (Tramadol)” หรือที่รู้จักกันว่า“ยาเขียวเหลือง” เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอพิออยด์ ออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน มีทั้งแบบยาเม็ดและยาแคปซูลในทางการแพทย์ใช้รักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง
ผลข้างเคียงที่พบจากการใช้ ยาทรามาดอล เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ มึนงง ง่วงซึม หากใช้ในปริมาณมากอาจเกิดประสาทหลอน ชักและนำไปสู่การเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังพบอาการกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกร่วมกับความดันโลหิตสูง ภาวะลิ่มเลือดกระจายในหลอดเลือด ไตวายเฉียบพลัน หากมีการใช้ยาหลายตัวร่วมกันโดยเฉพาะยาอี ยาบ้า จะยิ่งเสริมทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากยาทรามาดอลเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทรามาดอล จัดเป็นยาอันตราย การใช้ยาต้องควบคุมโดยแพทย์และห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในทุกกรณี แต่ในปัจจุบันพบการลักลอบจำหน่ายตามช่องทาง Social Media (โซเชียลมีเดีย) หรือสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด ทั้งการใช้แบบยาเดี่ยวและผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ
ทั้งนี้หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้มีความต้องการปริมาณยาที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดอาการติดยาในที่สุด
วิธีการบำบัดเลิกยาทรามาดอล
นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ
บรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาทรามาดอล ทำให้เกิดการเสพติดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่นเดียวกับฝิ่น เฮโรอีน หากได้รับเป็นเวลานานและหยุดยาทันทีจะเกิดอาการถอนยาได้
ในกรณีที่ไม่สามารถหยุดใช้ยาได้เองควรเข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่งแพทย์จะบำบัดอาการถอนยาและรักษาภาวะแทรกซ้อนทางกายและทางจิตควบคู่กันไป เมื่อผู้ป่วยอาการดีขึ้นจะส่งต่อเข้าสู่ขั้นตอนฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยเน้นการแก้ไขพฤติกรรมและเจตคติของผู้ป่วยเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจให้สามารถเลิกใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ขอย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่นำ ยาทรามาดอล มาใช้ในทางที่ผิดให้ตระหนักถึงผลกระทบต่อตนเองและครอบครัวให้มาก ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นผิดปกติ พบสิ่งของต้องสงสัย ต้องรีบเข้าไปพูดคุย บอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพรวมถึงอันตรายที่จะตามมา
สามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษาสุราและยาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี
- โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง
วัยรุ่นคิดพิเรนทร์ เอายาทรามาดอลผสมน้ำอัดลมกิน
มีความเชื่อผิดๆ ในหมู่วัยรุ่นที่ดัดแปลงเอาสรรพคุณของยาเขียวเหลืองที่ใช้แก้ปวด มาเสพเพื่อให้สมองเกิดความสุข และถ้าอยากให้ฤทธิ์รุนแรงขึ้น จะต้องผสมกับน้ำอัดลม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ หรือบางคนต้องเอามากลบกลิ่นรสขมของยา
แต่อันตรายที่ชัดเจนเคยปรากฎในข่าวคือ คาเฟอีนในน้ำอัดลมพอผสมกับยาเขียวเหลืองที่ใช้ในปริมาณเยอะจนโอเวอร์โพส จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานระบบประสาทส่วนกลางจน วิตกกังวล กระวนกระวาย นอนไม่หลับ หรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร ร้ายแรงสุดคือตับและไตวาย ดังที่คุณหมอบอกข้างต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง