สว. อาสาแบกเอง อัญเชิญ “พระเกี้ยว” บนวัยใกล้ 70 รับฝันทำตั้งแต่เป็นนิสิต
ครูหยุย สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กอาสา ขอแบกเอง หลังเจอนิสิตใช้รถกอล์ฟอัญเชิญพระเกี้ยว เผยบนวัยใกล้ 70 ขอทำตามฝันตั้งแต่สมัยสวมชุดมหาลัย
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ “นิสิตจุฬาฯ ใช้รถกอล์ฟอัญเชิญพระเกี้ยว ในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” ล่าสุด “ครูหยุย” วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยอาสาร่วมอัญเชิญพระเกี้ยว เข้าสู่สนามในวัยใกล้ 70 ปี
ข้อความจากโพสต์เฟซบุ๊ก วัลลภ ครูหยุย ตังคณานุรักษ์ ระบุ “ผมเป็น #ศิษย์เก่าคณะครุศาสตร์จุฬาฯ ผมอายุ 69 ใกล้จะ 70 ปีแล้ว ผมขออาสาร่วมอัญเชิญ #พระเกี้ยว เข้าสู่สนามการแข่งขัน #ฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ #ธรรมศาสตร์ ผมฝันได้ทำหน้าที่สำคัญนี้ มาแต่ครั้งยังเป็น #นิสิต”
ทั้งนี้ คณะผู้จัดงาน CU-TU Unity Football Match 2024 ชี้แจงความหมายขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว อ้างอิงข้อมูลจาก @CUTUFootball พระเกี้ยว เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจ สืบเนื่องจากชื่อของมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย
โดยขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 ในครั้งนี้ เหล่านิสิตได้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรรสัญลักษณ์ ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่าง ๆ มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว อันประกอบไปด้วย
- เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
- หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
- ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของ คณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
- เกียร์ ตัวแทนของ วิศวกรรมศาสตร์
- สเลทฟิล์ม ตัวแทนของ นิเทศศาสตร์
- ดัมเบล ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์การกีฬา
- จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะ
โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ที่อยู่รายล้อมพระเกี้ยวกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้พัฒนาวงการต่าง ๆ ในประเทศไทยและในระดับโลก ในทุกยุคสมัย ขณะเดียวกันก็ได้กลับมาโอบอุ้มให้มหาวิทยาลัยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง สอดรับกับพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
นอกจากนี้ อีกสิ่งประดับตกแต่งขบวนที่ทุกท่านเห็นได้ก็คือ คือ “อะตอม” ที่สื่อถึงส่วนประกอบเล็กๆ ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมแรงร่วมใจไปสู่การเป็นสถาบันเสาหลักที่ยั่งยืนของประเทศ
อีกทั้งขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในครั้งนี้ ยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้จากพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างสอดคล้องกับแนวคิดของงานนั่นคือ Unity to Sustainability และร้อยเรียงเป็น “พวงดอกกล้วยไม้ที่ผลิบาน” ดั่งโบราณว่า “กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม”
ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงาน น้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และยินดีนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง