พลาสติกหุ้มที่นอนใหม่ สกปรกกว่าที่คิด เผยทริคดูแลฟูก คงทน-เหมือนใหม่
เปิดเรื่องจริงที่ทุกคนควรรู้ ‘พลาสติกใสหุ้มที่นอนใหม่’ สกปรกกว่าที่คิด ตัวการสะสมแบคทีเรีย ควรแกะออกก่อนใช้งาน พร้อมแนะนำทริคการดูแลฟูกให้ยังใช้งานได้ดี-เหมือนใหม่อยู่เสมอ
หลาย ๆ คนเวลาซื้อที่นอนใหม่ มักจะปล่อยพลาสติกซีลที่หุ้มที่นอนเอาไว้เช่นเดิม เหตุเพราะคิดว่าพลาสติกนี้จะช่วยรักษาสภาพของที่นอนให้ยังคงดูใหม่และสะอาดไร้ฝุ่นเสมือนเพิ่งออกมาจากโรงงาน แต่ในขณะเดียวกันบางคนกลับคิดว่าควรจะพลาสติกซีลทันทีหลังได้รับสินค้า เช่นนั้นแล้วจึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า ควรแกะพลาสติกออกจากที่นอนใหม่หรือไม่?
อ้างอิงจากข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ vtcnews.vn ได้มีการระบุไว้ว่า ควรแกะพลาสติกหุ้มที่นอนออกให้หมด ก่อนนำฟูกไปใช้งาน เพราะพลาสติกซีลที่ห่อหุ้มที่นอนนั้น เป็นแหล่งรวมสารพิษและแบคทีเรียที่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพอากาศในห้องนอน
ทำไม “ต้อง” แกะพลาสติกซีลออกจากที่นอน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณ “ต้อง” แกะพลาสติกออกจากที่นอนก็คือ “ความสกปรก” เพราะในขณะนอนหลับ ร่างกายของเราจะขับเหงื่อ ซึ่งปกติแล้วจะซึมลงไปในที่นอน แต่ถ้าหากฟูกของคุณถูกหุ้มไว้ด้วยพลาสติกซีล เหงื่อก็จะสะสมอยู่บนแผ่นพลาสติกใส ก่อนให้เกิดความอับชื้น สกปรก และทำให้ที่นอนมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
นอกจากนี้ ในทุก ๆ ครั้งที่ขัยบตัว แผ่นพลาสติกใสอาจก่อให้เกิดเสียงรบกวนยามนอนหลับ อันจะส่งผลต่อคุณภาพการนอนของคุณและคนที่คุณรัก อีกทั้งยังเป็นอันตรายสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก เพราะเด็กอาจฉีกพลาสติกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเผลอนำเข้าปาก หรืออาจร้ายแรงขนาดว่ากลืนลงท้อง
เช่นนั้นแล้ว ทุกคนควรแกะพลาสติกออกจากที่นอนใหม่ทันที อย่ามัวแต่เสียดายและกังวัลจนเกินเหตุว่าฟูกจะเสื่อมโทรมเร็วขึ้น เพราะการห่อหุ้มไว้ด้วยพลาสติกอย่างเดิมกลับก่อให้เกิดผลเสียมากมายอย่างคาดไม่ถึง
อย่างไรก็ดี หลังจากแกะพลาสติกออกแล้ว ควรผึ่งที่นอนทิ้งไว้ประมาณ 3-5 ชั่วโมง ก่อนใช้งาน เพื่อให้ที่นอนคืนตัวและทำให้กลิ่นของพลาสติกจางหายไป
เคล็ดลับการดูแลรักษาที่นอน
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่แกะพลาสติกหุ้มที่นอนออก เพียงเพราะกลัวว่าระยะเวลาการใช้งานของฟูกชิ้นใหม่จะสั้นลง และสกปรกไว ซึ่งมันจะดีกว่าหรือไม่ถ้าคุณแกะพลาสติกออก เพื่อขจัดตัวการแบคทีเรีย และเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาที่นอนอย่างถูกวิธีแทน โดยทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
การทำความสะอาดที่นอนนั้นค่อนข้างลำบาก แต่ก็สามารถทำความสะอาดเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง สำหรับในกรณีที่เกิดรอยเปื้อนเล็ก ๆ ทุกท่านสามารถใช้เบกกิ้งโซดา ยาล้างจาน หรือ สบู่ ผสมเข้ากับน้ำสะอาด จากนั้นใช้ผ้าขนหนูชุบพอหมาด ก่อนจะนำไปเช็ดทำความสะอาดตามรอยเปื้อน
หมั่นดูดฝุ่นอยู่เสมอ
ในปัจจุบันมีเครื่องดูดฝุ่นและลูกกลิ้งเก็บฝุ่นที่ออกแบบมาสำหรับทำความสะอาดที่นอนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถช่วยกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนฟูกได้
ใช้แผ่นรองที่นอน
ควรเลือกใช้แผ่นรองที่นอนที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือใยสังเคราะห์ ความหนาประมาณ 3 เซนติเมตรขึ้นไป เพราะจะช่วยปกป้องพื้นผิวที่นอนไม่ให้สัมผัสกับสิ่งสกปรกและได้รับแรงกดทับโดยตรง อีกทั้งข้อดีคือสามารถถอดออกมาซักได้ง่าย ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกบนฟูก
จ้างทำความสะอาด
หากเป็นไปได้ ควรจะใช้บริการทำความสะอาดที่นอนอย่างน่อย 1-2 ครั้งต่อปี เหตุเพราะบริษัทเหล่านี้มีอุปกรณ์ที่ครบครัน ซึ่งจะช่วยให้ที่นอนสะอาดหมดจดและยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนาน
หลีกเลี่ยงการกระโดด
การโดดหรือกระแทกแรง ๆ บนที่นอนเป็นประจำ เป็นเหตุทำให้สปริงเสื่อมสภาพเร็วและส่งผลต่อความยืดหยุ่นของที่นอน ดังนั้น การงดออกแรงกดทับแรง ๆ จะช่วยให้ที่นอนคงสภาพอยู่ได้นาน
เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ นอกจากจะเป็นการดูแลความสะอาดแล้ว อันจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งระบบทางเดินหายใจ และผิวหนังแล้ว อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาความสะอาดของที่นอน ไม่ให้ฝุ่นและแบคทีเรียลงไปสะสม
ทั้งนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าการดูแลรักษาที่นอนให้ใช้งานคงทน ไม่ใช่การไม่แกะพลาสติกซีล หรือปล่อยให้ฟูกถูกห่อหุ้มไว้เช่นนั้น แต่เป็นการแกะออกมาใช้งานตามปกติ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วางของบนหลัง ‘ตู้เย็น’ อันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงไฟฟ้าช็อต-ไฟไหม้-ผิดหลักฮวงจุ้ย
- เผยทริค ‘เลือกที่นั่ง’ บนเครื่องบิน โซนไหนนั่งสบาย ไม่ถูกรบกวน
- รู้แล้ว สาเหตุ ‘ฝารองนั่งชักโครก’ เว้าด้านหน้า เหตุผลสุดทึ่งจากผู้ผลิต