พ่อเฆ่า วัย 70 ปลิดชีพตัวเองคาบ้าน หลัง ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ หลอกถามข้อมูลส่วนตัว
พ่อเฒ่าวัย 70 ปีผูกคอตายคาบ้าน เมียร่ำไห้แทบคาดใจ คาดชนวนเหตุเกิดจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกถามข้อมูลส่วนตัว ผู้ตายเครียดกลัวโดนดูดเงินผู้สูงอายุ
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยจินตคาม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ณ จุดเกิดเหตุพบกับนางหนูกาล อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้จนแทบจะขาดใจตายตาม หลังสูญเสีย นายบุญช่วย อายุ 70 ปี ผู้เป็นสามี ที่ผูกคอตายภายในบ้าน โดยใช้เชือกไนล่อนสีเทาผูกเข้ากับขื่อภายในห้องเก็บของข้างบ้าน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงประมาณ 7 โมงเช้า ก่อนที่จะมีคนมาพบศพและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ยังได้พบกับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของผู้ตาย ระบุว่า “แม่มึงอยู่คน ไปก่อน พ่อไม่มากวนหลอก”
จากการสอบสวนนางหนูกาล ทราบว่า ช่วงประมาณบ่ายสามโมง ของวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา มีเบอร์แปลกโทรเข้าหาโทรศัพท์ของสามี แล้วถามว่าใช่เบอร์นายบุญช่วยหรือไม่ และยังมีการหลอกผู้ตายอีกด้วยว่า ได้พาเด็กถูกทำร้ายไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร จ.ขอนแก่น จะต้องทำการผ่าตัด และมีค่ารักษาพยาบาล ต้องการให้ไปเซ็นชื่อ และไปแจ้งความที่ สภ.ขอนแก่น
ทั้งนี้นางหนูกาลก็ได้เล่าต่อว่า มีการหลอกถามข้อมูลส่วนตัวของผู้ตายไปด้วย ทั้งเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร โดยนายบุญช่วยได้ให้เลขบัญชีที่เป็นบัญชีรับเงินเบี้ยผู้สูงอายุไป ซึ่งในนั้นมีเงินอยู่ 800 บาท หลังจากวางสายก็ได้โทรไปปรึกษาลูกสาวที่ทำงานอยู่ต่างประเทศในทันที ทำให้ผู้ตายทราบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาเพื่อหลอกถาม
ด้านภรรยาคาดว่า ผู้ตายน่าจะเครียดหลังจากได้ทราบว่าตนเองได้แจ้งข้อมูลส่วนตัวให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทราบแล้ว และคงคิดว่าเงินในบัญชีอาจจะถูกดูดไปด้วย ถึงแม้จะมีแค่ 800 ที่เป็นเบี้ยผู้สูงอายุก็ตาม จึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเองในเช้าวันรุ่งขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหาตำรวจ เปิดกล้อง ทำเอาอุทาน “ผมเจอตัวจริงว่ะพี่” (คลิป)
- เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีโอกาสได้เงินคืน ลงทะเบียนขอคืนทรัพย์ ผ่าน “ปปง.” ด่วน
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหาเหยื่อ หลอกทำหน้าตรง 3 วิฯ จับพิรุธสนั่นหรือนี่จะเป็นอุบายใหม่
อ้างอิงจาก : FB สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว