ข่าว

สึกแล้ว! พระพกปืน ชี้เป็นปืนอัดลม น้อยใจสำนักพุทธไม่ยอมฟังเหตุผล

พระพกปืน สึกแล้ว ชี้เป็นแค่ปืนอัดลมพลาสติก เจ้าตัวน้อยใจสำนักพุทธและพระผู้ใหญ่ไม่ยอมฟังเหตุผล แต่ยอมรับไม่เหมาะสมจริง แต่ไม่ได้ผิดร้ายแรงเท่าเสพยา

จากกรณีที่เพจ อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่งมีอาวุธปืนเหน็บอยู่ที่เอว พร้อมเขียนข้อความกำกับว่า “ชายแทร่ โพสต์ยั่วชวนญาติโยมจองกฐิน ระบุแคปชั้นตึงมาตึงกลับไม่โกง ใส่สบงแล้วทรงพลัง…วัดXXX บ้านโป่ง ราชบุรี” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนหน้านี้นั้น

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่ไปยังวัดแห่งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พบกับ เจ้าอาวาสวัด นางจินดา โม่มาลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.เขาขลุง และ นายมานะ ไวยาวัจกรวัด ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า พระรูปดังกล่าวเคยเป็นพระลูกวัดจริง มีชื่อว่า นายสายฟ้า หรือ เบนซ์ อายุ 32 ปี ในช่วงขณะที่บวชเป็นพระ มีฉายาว่า จารุธมฺโม หลังจากเกิดเรื่องได้ทำการลาสิขาไปแล้วตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้

จากนั้น เจ้าอาวาสได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูสภาพห้องพักของนายสายฟ้า พบว่า ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวขณะบวชเป็นพระสงฆ์ ทั้งย่าม หมอน ผ้าห่ม ตาลปัตร ปิ่นโต และเครื่องสังฆทานจำนวนหนึ่งยังอยู่ครบ ส่วนอาวุธปืนในรูปภาพ นายมานะ ไวยาวัจกรของวัด ได้นำมาให้ดู พบว่าเป็นปืนอัดลมพลาสติกสีดำ

นาง จินดา กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าอาวาสและพระลูกวัด ทราบว่าในระหว่างบวช นายสายฟ้าก็เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีการทำวัตรปฏิบัติของสงฆ์เป็นปกติ แต่ด้วยความเป็นคนขี้เล่น และความอ่อนพรรษา จึงนำปืนอัดลมมาเหน็บเอวเล่น ซึ่งกระทำไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และหลังจากที่มีภาพพระพกปืนออกสื่อสังคมออนไลน์ ทางสำนักพุทธฯ จึงได้มีคำสั่งให้ทางวัดดำเนินการสึกพระเบนซ์ในช่วงสายของวันนี้

ต่อมาผู้สื่อข่าวในท้องที่ได้เดินทางพูดคุยกับนายสายฟ้า ซึ่งนายสายฟ้าเปิดเผยว่า ตนได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการบวช เพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่นาน 15 วัน และจะครบกำหนดลาสิขาในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.67) เวลา 10.00 น.

ส่วนภาพดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากตนบวชได้เพียง 4 วัน ด้วยความนึกสนุก ขี้เล่น จึงขอยืมปืนอัดลมที่ไม่มีลูกกระสุน ซึ่งทางวัดใช้สำหรับไล่นกพิราบมาเหน็บเอว แล้วให้ลูกศิษย์ที่วัดถ่ายรูปให้ และได้มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กมาแล้วหลายครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ต่อมาช่วงเย็นวานนี้ (12 มี.ค.67) ตนจึงได้มีการนำภาพดังกล่าวมาโพสต์ใหม่ ซึ่งเป็นการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว และไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะ มีเพียงกลุ่มเพื่อนในเฟซบุ๊กจำนวนประมาณ 500 คนเท่านั้นที่จะเห็น กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. พี่สาวซึ่งอยู่ที่ต่างจังหวัดได้แชตข้อความมาบอกว่าให้ตนรีบลบโพสต์ดังกล่าว เพราะมีคนนำภาพของตนไปโพสต์ในเพจดัง และมีคนเข้ามาต่อว่ามากมาย คาดว่าน่าจะมีคนในกลุ่มเพื่อนในเฟซบุ๊กนำภาพดังกล่าวไปแชร์ต่อจนกลายเป็นประเด็น

นายสายฟ้า ยอมรับว่าภาพที่โพสต์ออกไปดูไม่เหมาะสมจริงๆ ขอน้อมรับความผิดที่ตนไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง และคิดให้ถี่ถ้วน ตนรู้สึกน้อยใจที่พระผู้ใหญ่และสำนักพุทธฯ ไม่ยอมรับฟังถึงเหตุผล ตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของภาพจากตนซึ่งเป็นผู้โพสต์ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่กลับบีบทางวัดให้ตนต้องลาสิขาทันที ทั้งที่ตนไม่ได้ทำผิดร้ายแรงอย่างการเสพยาเสพติด หรือมั่วสีกา การกระทำครั้งนี้เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย สามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ที่สำคัญคือ ตนมีกำหนดลาสิขาในวันพรุ่งนี้ จะปล่อยให้ครบกำหนดวันลาสิขาไม่ได้เลยหรือ เรื่องนี้สร้างความเสียใจและผิดหวังให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพ่อกับแม่ ซึ่งพยายามเก็บเงินตั้งใจจัดงานบวชให้กับตน

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button