“สมาคมตะกร้อ” ยุติการทำหน้าที่ พร้อมโค้ชทีมชาย-หญิง เซ่นปมเงินอัดฉีดหาย 10.1 ล้านบาท
สมาคมตะกร้อ ยุติการทำหน้าที่ของทีมงานโค้ชทั้งทีมชาย และทีมหญิง ชุดคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ 2023 จากปมขอแบ่งเงินอัดฉีดกว่า 10 ล้านบาท
จากกรณีที่มีการโพสต์ถึงเรื่องการทำข้อตกลงแบ่งเงินอัดฉีดของนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย จำนวนกว่า 30 – 50 เปอร์เซนต์ จากจำนวนเงินอัดฉีกที่นักกีฬาแต่ละคนได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หลังจากคว้าเหรียญทองในศึก เอเชียนเกมส์ 2022 กว่างโจวเกมส์ เมืองช่วงปลายปีก่อน
จนเรื่องนี้ไปถึงหูอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทยอย่าง “โจ้หลังเท้า” หรือ พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ 1 ในคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือนักกีฬาทีมชาติ พร้อมด้วยหลักฐานต่างๆ ว่าเหล่านักกีฬาแต่บะคนโดนหักไปเท่าไร มีการโอนเงินเข้าบัญชีใคร รวไมปถึงสุานที่นัดรับเงินสดด้วย
หลักฐานการแบ่งเงินอัดฉีดจากศึก เอเชียนเกมส์ ของนักกีฬาทั้งทีมชายและทีมหญิง โดยในประเภททีมชายได้ 2 เหรียญทองจากทีมเดี่ยว และทีมชุด รวมเป็นเงิน 34 ล้านบาท แบ่งเป็นนักกีฬา 5 คนในทีมเดี่ยวได้ไปคนละ 4 ล้านบาท และอีก 7 คนที่เล่นแค่ทีมชุดจะได้คนละ 2 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดควรเข้ากระบวนการแบ่งเงินอัดฉีดตามต้อลงที่กล่าวไปข้างต้น
แต่กลายเป็นว่านักกีฬาในทีมชุด 7 คนได้เงินตามปกติที่ 2 ล้านบาท แต่คนที่เล่นในทีมเดี่ยวกลับได้เงินไปคนละ 2.1 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนจำนวนเงิน 9.5 ล้านบาทที่ถูกหักออกจากทีมเดี่ยวนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่
- นักกีฬา 3 คนที่เดินทางไปที่ประเทศจีนด้วย แต่ไม่ได้ลงทำการแข่งขันจำนวน 3 คน ได้ไปคนละ 1.3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3.9 ล้านาท
- นักกีฬาที่เป็นคู่ซ้อมจำนวน 9 คน จะได้ไปคนละ 2.5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.25 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 ข้อที่นักกีฬาทีมชายให้เหตุผลว่าเป็นน้ำใจที่เต็มใจแบ่งให้รวมกันเป็นเงิน 6.15 ล้านบาท แต่เมื่อหักลบจากเงินจำนวน 9.5 ล้านบาท ปรากฎว่ามีตัวเลขเงินที่หายไปกว่า 3.35 ล้านบาท
ส่วนทางด้านทีมหญิงก็จะได้รับเงินเท่ากับทีมชาต เพราะพวกคว้ามาได้ 2 เหรียญทองเช่นกัน ทั้งในประเภททีมเดี่ยว และทีมชุด รวมไปเงินอัดฉีดที่ 34 ล้านบาท แบ่งเป็นนักกีฬา 5 คนที่เล่นทีมเดี่ยวจะได้ไปคนละ 4 ล้านบาท นอกนั้นอีก 7 คนที่เล่นแค่ทีมชุดจะได้คนละ 2 ล้านบาท
แต่ปรากฎว่านักกีฬาทีมเดี่ยว 5 คนได้ไปคนละ 2 ล้านบาท และนักกีฬาทีมชุด 7 คน กับผู้เล่นอีก 3 คนที่เดินทางไปด้วยแต่ไม่ได้ลงแข่งขันได้ไปคนละ 1.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 25 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 9 ล้านบาท แบ่งใ้กับนักกีฬาที่เป็นคู่ซ้อม 9 คน คนละ 2.5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.25 ล้านบาท โดยที่ตัวเลขเงินที่หายไปอยู่ที่ 6.75 ล้านบาท
ทำให้สรุปได้ว่าเงินที่หายไปทั้งทีมชาย และทีมหญิง เป็นเงิน 10.1 ล้านบาท นั้นไม่ได้ถูกแจกแจงว่าไปอยู่ที่นักกีฬาคนไหนเลย ทำให้ “สารวัตรโจ้” ตั้งข้อสังเกตว่าเงินจำนวนดังกล่าวไปอยู่ที่ใคร และเรื่องการหักเงินอัดฉีกนักกีฬาอย่างไม่เป็นธรรมได้เข้าสู่กระบวนการของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด “บิ๊กต้อม” หรือ ธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุม โดยมีวาระสำคัญคือการตัดสินเรื่องการแบ่งเงินนักกีฬาทีมชาติ โดยมีจำนวนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน เข้าร่วมประชุด ได้แก่ ดร.สมพงษ์ ชาตะวิถี, รัฐชัย ดารากร ณ อยุธยา, สุพจน์ ตุ้มประชา, อ.สมชาย ประเสริฐศรี และ พล.ร.ท.บุญชิต พูลพิทักษ์
โดยตัวของบิ๊กต้อมได้กล่าวว่า “ในเรื่องเงินฉัดนักกีฬา เพื่อหาข้อเท็จจริง ได้มีการนำเสนอข้อมูลถึงคณะกรรมการบริหารสมาคมแล้ว เพื่อให้กรรมการทุกท่านได้มีเวลาไปตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ โดยหน้าที่ต่อไปคณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ จะนำเรื่องไปสรุปอีกครั้งหนึ่ง”
“แต่วันนี้มีมติการแต่งตั้งเพื่อรองรับสำหรับการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤษภาคม, คิงส์ คัพ ในเดือนกันยายน โดยให้ สุพจน์ ตุ้มประชา เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีม ควบคุมโค้ชจากทหารบก และ ทหารอากาศ 4 รายมาทำหน้าที่คือ สามารถ โพธิ์ทอง, สมพร ใจสิงหล, ประเวศ อินทรา และ อธิยุต กิ้มทอง ซี่งจะควบการทำหน้าที่ไปพร้อมกันกับรายการ เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาตส์เกมส์ ในเดือนพฤศจิกายน”