‘ปลอดประสพ’ แฉ ‘เขาใหญ่’ มีเจ้าพ่อ ตั้งคำถามชวนคิดปม ‘หมุด สปก.’
ปลอดประสพ สุรัสวดี โพสต์แฉ เขาใหญ่ เป็นมรดกโลกและมีเจ้าพ่อ ตั้งคำถาม หมุด สปก. ข้ามแนวกั้นป่าอย่างไร ซัดมีการทำไปโดยพลการ
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “เขาใหญ่เป็นมรดกโลกและมีเจ้าพ่อนะครับ
เรื่องสปก.ประกาศที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นเรื่องผู้คนสนใจมาก และมีข้าราชการหลายคนขอร้องให้ผมเขียนอธิบายเพราะอาจเป็นคนที่รู้เรื่องนี้มากที่สุดก็เป็นได้ เพราะเป็นมนุษย์คนเดียวที่เป็นทั้งอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานฯ และเลขาธิการ สปก.อย่างต่อเนื่อง แถมเป็นคนพัฒนาเขาใหญ่และยังเป็นคนแบ่งเขตด้วยถนนลำลองดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
หากผมจะเขียนเรื่องราวเองก็อาจมีคนไม่เชื่อ อาจหาว่า หิวแสง แอบอ้าง ผมจึงขอยกเอาคำแถลงของคุณมาโนช การพนักงานอดีตหัวหน้าอุทยานเขาใหญ่คนหนึ่งมาใช้ก็แล้วกัน ดังนี้
”ปฐมเหตุสปก.4-01 เกิดขึ้นโดยรมต.เกษตรฯได้สั่งการให้กรมป่าไม้มอบพท.ป่าเสื่อมโทรมให้สปก.เพื่อออก สปก.4-01 กรมป่าไม้จำเป็นต้องมอบพท.ป่าให้สปก.แต่มีเงื่อนไข “ป่าไม้ที่มีสภาพป่าและพท.ต้นน้ำให้ สปก.คืนป่าและปลูกป่าทดแทนคืนให้กรมป่าไม้”(บันทึกน่าจะอยู่ที่กรมป่าไม้) จนมีเหตุการณ์คดี สปก.4-01อันโด่งดังครับ
.
ต่อมาช่วงดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาแนวเขตอุทยานแห่งชาติให้ชัดเจนจึงได้คิดโครงการทำถนนเเนวเขตอุทยานแห่งชาติประกอบกับท่านรมต.เกษตรฯ ท่านปองพล อดิเรกสาร(ขออนุญาตที่เขียนถึงท่าน)ได้เรียกท่านอธิบัตรดีปลอดประสพ ฯไปพบเพื่อให้กำหนดพท.ป่าเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวปัจจุบันเป็นอุทยานแห่งชาติแล้ว ท่านอธิบดีปลอดได้หารือเรื่องนี้กับท่านรมต. ท่านเห็นด้วยและกลับมาทำโครงการทำถนนรอบแนวเขตอช.เขาใหญ่ จนแล้วเสร็จช่วงหน.ดร.ชุมพล สุขเกษม ชัดเจนมาถึงปัจจุบันนี้ครับ
ช่วงผมทำหน้าที่หน.เขาใหญ่ จากการที่ได้เริ่มทำงานที่อุทยานแห่งชาติได้รับรู้ปัญหาอุปสรรคเรื่องแนวเขตอุทยานแห่งชาติต่างๆมาตลอด สำหรับอช.เขาใหญ่มีพท.สำคัญรอบแนวเขตอช.เขาใหญ่ที่เป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นที่สำคัญอีกหลายแห่งที่ติดกับแนวเขตอช.เขาใหญ่อาทิ เขาลูกช้างที่มีค้างคาวจำนวนมาก เขาแผงม้า ที่มีกระทิงจำนวนมาก จึงได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตเขาใหญ่ใหม่โดยยึดแนวเขตเดิม เพิ่มพท.แหล่งท่องเที่ยว จุดเด่น ป่าที่สมบูรณ์ จนแล้วเสร็จ และได้นำเสนอให้ชุมชนที่มีส่วนได้เสียให้ความเห็นชอบแล้ว(เป็นผลงานน้องๆที่เป็นผช.ผมที่ทำได้สำเร็จ) เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีการดำเนินการต่อไป”
ขออธิบายเพิ่มเติมว่า แต่เดิมการประกาศ สปก.4-01จะไม่มีปัญหาเพราะจะมีพระราชกฤษฎีกาเป็นรายแปลง แต่มาภายหลังซึ่งรวมถึงกรณีเขาใหญ่และบริเวณวังน้ำเขียว จะใช้วิธีประกาศทั้งอำเภอหรือหลายอำเภอด้วยซ้ำไป ดังนั้น จึงต้องมีการสำรวจร่วมระหว่างกรมป่าไม้ (กรมอุทยานฯ)กับสปก.เสียก่อนจึงจะออกสปก.4-01 ให้ใครได้ ทั้งนี้รวมถึงการปักหมุดแสดงเขตสปก.ในเขตป่าไม้โดยไม่หารือกันก่อนทำไม่ได้ กรณีนี้ผมทำแนวเขตเป็นถนนให้แล้ว หมุดสปก.มันข้ามไปได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงกันอยู่ว่า หากยังเป็นป่าอยู่ ทางสปก.ก็ต้องคืนที่ให้กรมป้าไม้ ซึ่งในสมัยผมก็กระทำเป็นตัวอย่างไว้ แต่พวกคุณแกล้งทำเป็นไม่รู้
ผมดูแล้ว เรื่องนี้เด็กช่างรังวัด นิติกร และสปก.พื้นที่ทำโดยพละการ แถมชื่อคนได้ สปก.4-01ก็ดูแปลกๆมีซ้ำกัน คนที่ทำถูกต้องคือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง) ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ (คุณชัยวัฒน์ ) และอธิบดีอส.(อรรถพล) ที่ยืนเคียงข้างลูกน้อง เรื่องนี้ถ้าหากสอบกันไป อาจมีคนผิดม.157 ฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการ รังวัดที่ดินทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งก็เคยมีกรณีมาแล้วทางใต้ถึงขั้นไล่ออกกันเลย
ส่วนฝ่ายการเมืองก็อย่ายุ่ง หากยุ่งไปแล้วก็ให้ถอยเสีย เพราะเดี๋ยวจะเจ็บตัวนะครับ”