เปิดจดหมายอาฆาต พี่จุดไฟเผาตัวเองกับหลานพิการ น้องยืมเงินไม่คืน ขอจองเวรทุกชาติ
หญิงวัย 66 ปี เครียดหนัก น้องสาวยืมเงิน 60,000 ไม่คืน ซ้ำยังขู่กลับว่าถ้าอยากได้เงินคืนก็ให้ไปฟ้อง หมดปัญญาจะทวง สุดท้ายเลือกจบชีวิต เผาตัวเองพร้อมหลานพิการ ทิ้งจดหมายฝากแรงอาฆาต ขอจองเวรทุกชาติ
วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2567) เกิดเหตุสลดขึ้น ณ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เหตุดังกล่าวได้รับรายงานมาจาก สภ.นาสัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมาว่า มีคนจุดไฟเผาตัวเองจนเสียชีวิต โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่บริเวณหมู่ 6 ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนหมู่บ้านกว่า 10 กิโลเมตร
สืบทราบว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ เป็นหญิงชรา อายุ 66 ปี นามว่า นางอุทัย ชนะ และ เด็กหญิงกนกนภา เด็กสาวพิการ อายุ 14 ปี ทั้งสองศพอยู่ในสภาพถูกไฟเผาจนไหม้ จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบยาฆ่าแมลงแบบ 5 ลิตร จำนวน 1 แกลลอน โดยภายในแกลลอนมีน้ำยาเหลือเพียงเล็กน้อย ทั้งยังพบขวดน้ำยาแล็กเกอร์สำหรับทาไม้ อีก 2 ขวด โดยเป็นขวดเปล่า 1 ขวด และอีก 1 ขวด มีน้ำยาฆ่าแมลงซึ่งผสมกับน้ำไว้บรรจุอยู่เต็มขวด
ในบริเวณพื้นปูนบริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นกระดาษ 2 แผ่น ที่เขียนข้อความด้วยลายมือไว้ว่า “ขอโทษ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ทุกคน ที่จบชีวิตด้วยการทำร้ายตัวเอง หนีทุกสิ่ง ทุกอย่าง จากน้อง”
ในส่วนของจดหมายอีกแผ่นเขียนไว้ว่า “เรามาใช้เวรชาติหนี้ (นี้) กระนุ้ย (เป็นภาษาที่เรียกน้อง คาดว่าหมายถึงน้องสาวของผู้เสียชีวิต) มึงเอาเงินกูไป 60,000 บาท กูขอจองเวรทุก ๆ ชาติ”
หลังเกิดเหตุ นางสาวอ้อยทิพย์ วัย 39 ปี เผยว่า หญิงวัย 66 ปี ผู้เสียชีวิตคือแม่ของตน และในส่วนของเด็กหญิงวัย 14 ปี เป็นลูกของพี่ชาย ซึ่งตัวหลานป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังจากที่หลานเกิด แม่ของตนก็ได้พามาเลี้ยงดู และเมื่อพ่อของตน หรือสามีของผู้ตายเสียชีวิต หญิงวัย 66 จึงอาศัยอยู่กับหลานแค่ 2 หลาน ส่วนตนนั้นแยกออกไปอยู่บ้าน ที่ห่างจากบ้านของแม่เพียง 100 เมตร
ลูกสาวของผู้ตายเผยว่า แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่เธอก็มักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ และในวันเกิดเหตุ เธอได้พาแม่ไปประชุมกับอสม. คนอื่น ๆ ที่ศาลาหมู่บ้าน เนื่องจากแม่เป็นอสม. เมื่อส่งแม่เสร็จเรียบร้อยจึงเดินทางกลับบ้าน จวบจนกระทั่งเที่ยงเธอได้ออกไปรับแม่กลับ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าแม่ได้อาศัยรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบ้านกลับมาก่อนแล้ว
ล่วงเลยจนพลบค่ำ เวลาประมาณทุ่มเศษ เธอสังเกตเห็นว่าบรเวณบ้านแม่มีเปลวไฟลุกโชนสว่าง ทั้งยังมีเสียงคล้ายระเบิด จึงตัดสินใจวิ่งไปดู และก็ได้พบว่า เปลวไฟกำลังมอดไหม้ร่างกายผู้เป็นแม่และหลานสาว ด้วยความตกใจเธอจึงรีบร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะแม่กับหลานถูกไฟโหมคลอกหนักมากจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี การสอบสวนเพิ่มเติมจากลูกสาวของผู้ตาย ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบว่า จดหมายดังกล่าวถูกเขียนด้วยลายมือของผู้ตายวัย 66 ปี ซึ่งเธอคาดว่า มีสาเหตุมาจากความเครียดสะสมที่น้องสาว (น้าของผู้เล่า) แม่ยืมเงินไป 60,000 บาท เป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่คืน หลายครั้งเคยทวงแต่ก็จบที่การทะเลาะกัน
นับว่าปัญหาระหว่างพี่กับน้องก็รุนแรงขึ้น น้องสาวของแม่ ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหน้าสุด ได้เอาไม้และหลักมาปิดกั้นทาง ไม่ให้แม่ใช้ทางเข้าบ้าน หลังจากตกลงกันไม่ได้ จึงขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย จนสุดมท้ายก็ยอมเปิดทางให้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่จะคอยทวงถามเงิน เพราะจำเป็นต้องนำไปใช้จ่ายซื้อของใช้ให้หลานสาวที่พิการ ซึ่งน้าสาวก็เย้ยว่า หากอยากได้ก็ให้ไปฟ้อง เธอจึงคาดว่าแม่คงเครียดมาก จึงได้ตัดสินใจจุดไฟเผาตนเองและหลานสาวที่พิการให้ตายตามกันไปเพราะไม่อยากให้เป็นภาระของใคร ซึ่งเรื่องนี้แม่เคยพูดและบอกว่าจะทำ และในวันนี้ก็มาถึงจนได้
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะนำศพทั้งสองไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลสวี เพื่อรายงานความคืบหน้าในคดีต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาถรรพ์เมรุเก่า 40 ปี เผามาหมื่นศพ ถล่มทับคนงานดับ ลูกสาวเผยลางบอกเหตุ
- จับ ‘ช่างกิต บางบ่อ’ ชายชู้ มืออุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน สางปมสลด เดิมทีตั้งใจอุ้มไปเคลียร์
- สลด คุณตา ใช้ถุงคลุมหัว ฆ่าตัวพร้อมยายพิการสมอง ในห้องน้ำรถไฟฟ้าใต้ดิน