นรด. เผยไม่พบใบต้นขั้ว สด.43 ‘จิรัฏฐ์’ เล็งดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสาร
งานเข้า! หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เผยไม่พบใบต้นขั้ว สด.43 ของ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เล็งดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสาร ลือไม่ได้จับใบดำใบแดงด้วย
พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต้องการชี้แจงลำดับขั้นตอนการได้มาซึ่งใบ สด.43 ที่ถูกต้อง ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือผู้ที่ผ่านกระบวนการตรวจเลือกมาจับใบดำใบแดง จะต้องมีประธานและคณะกรรมการลงลายเซ็นทั้งหมด และจะได้รับเอกสารจากวันตรวจเลือก จากมือประธาน
ส่วนอีกกรณีคือ ผู้ที่ผ่อนผันก็จะได้ สด. 43 กลับไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีช่องเขียนว่าผ่อนผัน ซึ่งเงื่อนไขสำคัญคือจะต้องได้รับจากมือประธาน ในวันตรวจเลือกเท่านั้น ถ้าไปได้วันอื่น จะมาบอกว่าวันนั้นไม่มา แล้วมาวันหลังมาจับใบดำใบแดงแล้วได้สด. 43 กลับไปไม่มีโดยกระบวนการ
สำหรับขั้นตอนการผ่อนผันนั้นเริ่มเกณฑ์ ตั้งแต่อายุ 21 ถึง 26 ปี หากอยู่ระหว่างศึกษา สามารถผ่อนผันได้ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข หากพ้นเงื่อนไข กรณีถ้าต้องเป็นคดีความ หากศาลตัดสินแล้ว ก็ต้องมาเป็นทหารเลย เงื่อนไขมีเท่านี้ วิธีการอื่นไม่ใช่ขั้นตอนที่ทางราชการออก
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยืนยันว่าได้จัดเก็บหลักฐานการตรวจเลือกทหารไว้ทั้งหมด แยกไปหลายส่วน เพื่อป้องกันการทุจริต อย่างน้อยสามารถตรวจสอบได้หลายทาง
สำหรับใบ สด.43 หัวใจหลักมีอยู่ 2 อย่างคือกรรมการ 5 ท่าน เซ็นครบทุกช่อง และต้องรับจากมือประธานกรรมการตรวจเลือกในวันนั้นเท่านั้น และวันเดียวด้วยไปรับวันอื่นก็ไม่ใช่
ขณะที่ พ.อ.พงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ ผอ.กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ชี้แจงว่า สำหรับผู้ที่ได้รับหมายเรียก จะต้องเข้ารับการตรวจเลือก ซึ่งจะกำหนดไว้ว่าสถานที่ใดวันใดแบบตายตัวไม่สามารถเป็นวันอื่นได้
และเมื่อมาเข้ารับการตรวจเลือกแล้ว หากอยู่ในรายชื่อผู้ผ่อนผัน มารายงานตัวเสร็จก็จะถูกแยกไปเลย แต่ไม่ว่ากรณีใดจะต้องได้รับใบรับรองการตรวจเลือก หรือ สด.43 จากประธานเท่านั้น ซึ่งปีต่อไปก็จะต้องเข้ามารับการตรวจเลือก มาแสดงตนตามวันเวลาที่กำหนด เป็นลักษณะปีต่อปี กรณีอื่นไม่มี
สำหรับการลงในสด.43 มีอยู่ด้วยกัน 3 ท่อน ท่อนแรกจะเก็บไว้ ที่สำนักงานสัสดีจังหวัด ท่อนที่ 2 เก็บไว้ที่กองทัพภาคภูมิลำเนาทหาร แล้วท่อนที่ 3 อยู่กับเจ้าตัว หากผ่อนผันแต่ละท่อนก็จะถูกเก็บแยก ต่างกันเพื่อตรวจสอบ
พ.อ.พงศฤทธิ์ กล่าวว่า หากไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกในปีนั้น สด.43 ทั้ง 3 ท่อนนั้น ก็จะไม่ได้รับการแจกจ่ายไปที่ใด จะเก็บอยู่ในต้นขั้วทั้งหมด และเมื่อสิ้นสุดการตรวจเลือก จะตอกทำลาย เพื่อเป็นหลักฐานไว้ว่า ไม่ได้มาเข้ารับการตรวจเลือกหรือขาดรับการตรวจเลือก ก็จะใช้เป็นหลักฐานราชการอีกอย่างหนึ่ง
ส่วนประเด็นของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล นั้น ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยืนยันว่าใครที่อยู่ในระบบ ต้นขั้วเจอหมด เพราะฉะนั้นชายไทยทุกคน ที่เข้าสู่กระบวนการจะต้องมีต้นขั้ว ส่วนต้นขั้วของนายจิรัฐระบุไว้อย่างไร ขออธิบายว่า ตนอธิบายไปแล้วว่าขั้นตอน ของสด. 43 มีอะไร ที่ถูกต้อง ลายเซ็นต้องครบลายนิ้วมือต้องพิมพ์ ต้องไปดูว่าสิ่งที่มีผู้แสดงออกมา ว่าสด.43 ใบนั้น เป็นสิ่งที่ราชการออกให้หรือไม่เพราะถ้าไม่ครบ ก็จะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้
ส่วนจะถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กล่าวว่า เป็นไปตามที่ตนชี้แจงไป ถ้าฟังแต่ต้นจะทราบว่าของจริงต้องนับจากมือประธาน ถ้าองค์ประกอบพวกนี้ไม่ครบก็จะไม่ใช่ของจริง
ถ้าเป็นการปลอมแปลงเอกสาร ในฐานะหน่วยรับผิดชอบตรง จะดำเนินการอย่างไร ผบ.นรด. ระบุ ขณะนี้ กองทัพบก อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ อยู่ในขั้นตอน เข้าใจว่า ใช้เวลาไม่นาน วันถึงสองวันนี้ ดำเนินการ
ส่วนการปลอมแปลงเอกสารมีความผิดอย่างไรนั้น ผบ.นรด. กล่าวว่าความผิดอยู่ที่ศาลจะตัดสิน และการต่อสู้ในชั้นศาล ยืนยันว่าโทษขนาดไหนอยู่ที่การพิจารณาของศาล
ผบ.นรด. ย้ำในช่วงท้ายว่า ประเด็น สด.43 เป็นเรื่องที่สังคมสนใจและอยากทราบ จึงออกมาที่แจ้งรายละเอียด ยืนยันกองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจในกรณีนี้เพียงแต่ อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่าต้นขั้วสด. 43 สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้นับ 10 ปี และกรณีของนายจิรัฏฐ์ไม่ได้ มาเข้ารับการตรวจเลือกจับใบดำใบแดง
‘จิรัฏฐ์’ โต้เพจดัง ไม่ได้หนีทหาร ทำตามกฎหมาย ชี้มีเจตนาจ้องจะดิสเครดิต