ช้างศึกเตรียมลุย! ฟุตบอลทีมชาติไทย ปะทะ อุซเบกิสถาน ในศึกเอเชียนคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะเข้ารอบ 8 ทีม ถึงแพ้ก็ไม่โดนตัดแต้มอันดับโลก ฟีฟ่าแร้งกิ้ง
เตรียมลุ้นชัยชนะประวัติศาสตร์ 30 มกราคมนี้ แฟนบอลชาวไทย ร่วมเชียร์ ทีมชาติไทย ลงทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่เอเชีย “เอเชียนคัพ 2023” รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับ อุซเบกิสถาน ณ สนาม อัล จานูบ สเตเดียม ประเทศกาตาร์ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
การแข่งขันรอบนี้เป็นแบบน็อคเอ้าต์ แพ้ตกรอบ ทีมไทยภายใต้การนำของกุนซือใหม่ มาซาทาดะ อิชิอิ มาคุมทีมแค่ 2 เดือน แต่ยกระดับระบบทีม จนไทยไม่เสียประตูให้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่ม ดันอันดับโลกฟีฟ่าแร้งกิ้ง ขึ้นมาต่ำกว่า 100 ในรอบ 17 ปี
สำหรับหลายคนที่กังวลว่าหากไทยแพ้อุซเบกิสถานครั้งนี้ จะโดนตัดแต้มอันดับโลกร่วงไหม สบายใจได้เลย เพราะ FIFA ได้ปรับระบบการคิดคะแนนใหม่ตั้งแต่หลังจบฟุตบอลโลก 2018 เพื่อเอื้อให้กับทีมที่ทำผลงานได้ดีถึงรอบลึกๆ
กล่าวคือ ทีมที่แข่งขันในรอบน็อคเอาท์ทุกทีมจะไม่โดนปรับคะแนนลดหากแพ้ แต่จะยังคงได้คะแนนเพิ่มหากชนะ
เมื่อมาดูสถิติอันดับโลกฟีฟ่า ณ วันที่ 28 มกราคม 2567
ทีมชาติไทย อยู่อันดับ 100 ของโลก มี 1,206.58 คะแนน ขณะที่ ทีมชาติอุซเบกิสถาน อยู่ที่อันดับ 67 ของโลก มี 1,362.80 คะแนน
ถ้าไทยชนะอุซเบกิสถาน จะได้บวกคะแนนเพิ่ม 22.57 แต้ม ถ้าอุซเบกิสถานชนะไทย จะได้ลวกคะแนนฟีฟ่าเพื่ม 12.43 แต้ม โดยอีกฝ่ายได้ 0 คะแนน
เท่ากับว่าหลังจากนี้ทีมชาติไทยมีแต่กำไรล้วนๆ ต่อให้แพ้ก็เป็นการพิสูจน์ฝีมือภายใต้การคุมทีมของอิชิอิ ที่มาไกลกว่าที่แฟน ๆคาดไว้ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ และหากชนะก็ได้ทั้งคะแนนอันดับโลก ได้เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในรอบหลายปี และได้ล้างตาอุซเบกิสถาน หลังจากแพ้มาในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ครั้งล่าสุด 0-2
ย้อนผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ทีมชาติไทย: อยู่อันดับ 2 ของกลุ่ม F ชนะ 1 เสมอ 2 เก็บได้ 5 คะแนน
ทีมชาติอุซเบกิสถาน: อยู่อันดับ 2 ของกลุ่ม B ชนะ 1 เสมอ 2 เก็บได้ 5 คะแนน
สถิติการพบกัน
ทั้งสองทีมพบกัน 5 ครั้งหลังสุด ไทยชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
เกร็ดความน่าสนใจ
- เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของทีมชาติไทย ว่าจะสามารถผ่านทีมชั้นนำของเอเชียอย่าง อุซเบกิสถาน ไปได้หรือไม่
- อุซเบกิสถาน เป็นทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่าไทย และมีนักเตะที่มีความสามารถหลายคน
- ทีมชาติไทย ภายใต้การนำของ อิชิอิ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้
แฟนบอลชาวไทยสามารถส่งกำลังใจให้ทีมชาติไทย ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ช่อง PPTV HD 36 และ T-Sports 7**
ร่วมเชียร์ช้างศึกให้คว้าชัยชนะและผ่านเข้ารอบต่อไป พร้อมกัน 30 มกราคมนี้
