ถ้ามนุษย์ไม่มี “นิ้วโป้ง” จะเกิดอะไรขึ้น
นับตั้งแต่มนุษย์ได้รับพรจากธรรมชาติให้เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาหนึ่งเดียวบนโลก วิวัฒนาการทางร่างกายก็มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการมีชีวิตรอด นอกจากการเดินสองขาได้แล้ว ยังรวมถึงการพัฒนา “นิ้วโป้ง” ให้มีฟังก์ชั่นช่วยดำรงชีวิตประจำวันด้วย
วิวัฒนาการของนิ้วโป้ง
วิวัฒนาการของนิ้วโป้งในมนุษย์นั้นซับซ้อนและยาวนาน งานศึกษาระยะหลัง คาดว่าลักษณะของนิ้วหัวแม่มือที่มีความยาวคล้ายปัจุบัน พัฒนาขึ้นตั้งแต่บรรพบุรุษมนุษย์เริ่มเดินสองขาบนพื้นดิน เมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน การที่มนุษย์เดินสองขาทำให้ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายหลายอย่าง รวมถึงมือและนิ้วมือด้วย
พลังของนิ้วหัวแม่มือในระดับนี้ทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงวิวัฒนาการ ดังที่เห็นได้จากความสามารถในการยึดเกาะปีนป่ายต้นไม้ที่ทรงพลังและการขนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ที่สัตว์อื่นทำไม่ได้
นักบรรพชีวินตั้งข้อสังเกตว่ามนุษย์สายพันธุ์ออสตราโลพิเทคัสที่สูญพันธุ์ไปแล้ว แม้จะสร้างและใช้เครื่องมือที่ทำจากหิน แต่ก็ยังขาดความชำนาญในการใช้นิ้วหัวแม่มือเหมือนสายพันธุ์โฮโมรุ่นหลัง ซึ่งจำกัดความสามารถในการสร้างเครื่องมือดำรงชีพ
ดังนั้น ในบรรพบุรุษมนุษย์ยุคแรก ๆ นิ้วโป้งยังมีขนาดเล็กและยืดหยุ่นได้น้อยกว่าในปัจจุบัน สามารถใช้จับสิ่งของได้เพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มใช้เครื่องมือและประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ มากขึ้น นิ้วโป้งก็เริ่มพัฒนาให้แข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สามารถจับสิ่งของได้หลากหลายขึ้น
นิ้วโป้งของมนุษย์มีโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่านิ้วอื่น ๆ โดยมีข้อต่อหลายข้อและกล้ามเนื้อหลายมัด ทำให้สามารถงอและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ซึ่งช่วยให้สามารถจับสิ่งของได้อย่างแม่นยำและละเอียดอ่อน
แม้ว่าสัตว์สปีชีส์อื่น ๆ ก็มีนิ้วโป้งแต่ไม่ซับซ้อนและยืดหยุ่นเท่านิ้วโป้งของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ลิงบางชนิดมีนิ้วโป้งที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้สามารถจับกิ่งไม้และปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด เช่น สุนัขและแมว มีนิ้วโป้งที่เล็กและสั้น ข้อดีคือช่วยให้สามารถเดินและวิ่งได้อย่างรวดเร็ว แต่ใช้จับสิ่งของไม่ได้
ถ้ามนุษย์ไม่มี “นิ้วโป้ง” จะส่งผลเสียต่อมนุษยชาติอย่างไร
หากมนุษย์ไม่มีนิ้วหัวแม่มือที่ใช้ได้สารพัดประโยชน์เช่นปัจจุบัน หรือหากนิ้วโป้งเราหยุดวิวัฒนาการ สั้นและไม่ยืดหยุ่นเหมือนหมา จะส่งผลต่อความสามารถและวิถีชีวิตของเราอย่างมากในด้าน ต่างๆ ดังนี้
1. ความคล่องตัวลดลง ทักษะการเคลื่อนไหวแย่ขึ้น
นิ้วโป้งเป็นอวัยวะกุญแจสำคัญในการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมของเรา เช่น การเขียน การพิมพ์ และงานประดิษฐ์อันซับซ้อนต้องอาศัยการเคลื่อนไหวและความแข็งแกร่งของนิ้วหัวแม่มือ หากไม่มีความชำนาญนี้ งานหลายอย่างที่เราถือว่าง่ายจะกลายเป็นความท้าทายหรือเป็นไปไม่ได้เลย
2. ใช้เครื่องมือหลายอย่างไม่ได้อีกต่อไป
หากไม่มีสกิลใช้นิ้วโป้ง ความสามารถในการสร้างและจัดการเครื่องมือจะถูกจำกัดอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรม ภาพใหญ่คือสังคมมนุษย์อาจเจริญช้าลงกว่าที่เป็นอยู่เยอะมาก
3. ใช้ชีวิตประจำวันยากลำบาก
งานหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันจะกลายเป็นเรื่องยากไปโดยปริยาย เช่น การเปิดขวด ใช้ช้อนส้อม หรือแม้แต่การติดกระดุมเสื้อเชิ้ต ก็ต้องใช้ความสามารถในการขยับของนิ้วหัวแม่มือ
4. ผลกระทบต่อการสื่อสาร
คนปกติอาจไม่สังเกต แต่ผู้พิการจะใช้ชีวิตลำบากขึ้น เพราะหัวแม่มือใช้ในภาษามือ หรือแม้แต่ท่าทางง่ายๆ เช่น การยกนิ้วโป้ง จะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด
5. การเปลี่ยนแปลงในศิลปะและวัฒนธรรม
การแสดงออกทางศิลปะซึ่งมักจะอาศัยทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีซึ่งอำนวยความสะดวกโดยการเคลื่อนไหวนิ้วหัวแม่มือจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เช่น นาฏกรรมไทย รำไทย จะไม่มีท่าจีบอีกต่อไป เพราะปลายนิ้วหัวแม่มือแตะนิ้วชี้ไม่ได้