ปาปัวนิวกินี ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน 14 วัน หลังตำรวจและข้าราชกานับพันประท้วง หลังระบบมีปัญหาถูกตัดเงินเดือน นำไปสู่เหตุจลาจลและมีผู้เสียชีวิต 16 ศพ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม สำนักข่าว เดอะการ์เดียน รายงานว่านาย เจมส์ มาราเป นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ได้ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน 14 วัน ภายหลังจากที่เกิดเหตุประท้วงและนำไปสู่การจราจล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 16 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย
ทหารกว่า 1,000 นาย เตรียมประจำการหากเกิดเหตุความรุนแรงซ้ำ พร้อมสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุจลาจล ซึ่งนักข่าวในท้องที่ว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ พร้อมระบุว่าไม่ค่อยมีประชาชนออกมาเดินบนท้องถนน มีเพียงแต่ทหารและตำรวจเท่านั้น
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและข้าราชการจำนวนมากนับพันคนได้ออกมาประท้วง หลังจากที่เงินเดือนถูกตัด สูงสุดถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งทางการชี้ว่าเป็นข้อผิดพลาดด้านการบริหาร ซึ่งทางรัฐบาลระบุว่าจะจ่ายเงินใช้ให้ในเดือนหน้า อย่างไรก็ตามคำตอบนี้ไม่เป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม และนำไปสู่การประท้วง ผู้ชุมนุมได้พยายามจะบุกเข้าไปทำเนียบรัฐบาล และปะทะกับเจ้าหน้าที่
โดยสถานการณ์เริ่มบานปลาย เมื่อมีประชาชนที่ทราบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเมืองได้ก่อเหตุปล้นสะดมร้านค้า และมีการวางเพลิงในพื้นที่ต่างๆ
สำนักข่าว ABC สื่อในออสตรเลียระบุว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น 4 รายถูกยิงโดยเจ้าของร้านขายของ ภายในชานเมือง กรุงพอร์ตมอร์สบี
ทั้งนี้รัฐบาลปาปัวนิวกินีเผชิญกับแรงกดดันทั้งเรื่องอัตราการว่าจ้างที่สูง รวมถึงความไม่พอใจจากหลายกลุ่ม รวมถึงภาวะเงินเฟ้อด้วย
