หนุ่มใหญ่กระสับกระส่าย 4 ห้องหัวใจ ถามในพันทิปหลังเจอเด็ก 18 ลูกสาวร้านชำฝั่งตรงข้ามส่งยิ้มให้ทุกวัน เจ้าของเรื่องก็มีครอบครัวแล้ว งานนี้ชาวเน็ตรีบดึงสติ เฟรนด์ลี่ไม่เท่ากับมีใจ
งานนี้ก็ว้าวุ่นเลย เมื่อล่าสุดบนแพลตฟอร์มกอสซิบชื่อกะฉ่อนของไทยอย่าง พันทิป (Pantip) ได้เกิดมีชายหนุ่มรุ่นใหญ่ท่านหนึ่ง เกิดความคับข้องใน 4 ห้องหัวใจ สาเหตุเกิดจากถูกเด็กสาวที่อายุอานามห่างกันกว่า 20 ปี มาคอยโปรยยิ้มหวานให้ตลอดเวลา
เนื้อหาจากในกระทู้ต้นทางที่ถามไว้ในกลุ่มเฟซบุ๊ก กระทูพันทิป ระบุ ข้อความชวนฉงนสังสัยของหนุ่มใหญ่คนดังกล่าว ว่า “ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า เรา 43 แล้ว แต่มีลูกสาวร้านขายของตรงข้ามกัน เห็นมาตั้งแต่ 11 ขวบ ตอนนี้เขา 18 แล้ว ช่วงนี้ชอบมายิ้มให้เรา แอบมองเรา บ้านเขาอยู่ไกลร้านนะ วันไหนเขาไม่เปิดร้าน ก็ยังมาซื้อของที่ร้านเรา บ้านเขากับร้านก็คนละทางกัน เราก็มีครอบครัวแล้ว”
หลังโพสต์ออกไป ปรากฏ คอมเมนต์ส่วนใหญ่ก็เหมือนจะเป็นเอกฉันฑ์ สรุปปมครุ่นคิดหนักของพ่อหนุ่มเนื้อหอม งานนี้น่าจะคิดไปเองคนเดียวแน่นนอน เพราะบางครั้งการที่อีกฝ่ายแสดงออกอย่าง “รอยยิ้ม” ตามที่ต้นเรื่องคาใจ ก็อาจะเป็นแค่การทักทายตามแบบฉบับของคนอัธยาศัยดีทั่วไปเท่านั้น หรือต่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีจริง แต่จากข้อมูลในโพสต์ เจ้าของเรื่องก็เป็นผู้ใหญ่และมีครอบครัวแล้ว ก็ไม่ควรจะทำอะไรไปมากกว่านี้อยู่ดี
“อันนี้คิดไปเอง ค่ะ”
“น้องเขาอาจมองเฉย ๆ เราอ่ะ คิดอะไรหรือป่าว”
“ถึงเขาจะติดกับคุณ แต่คุณไม่ควรคิดอะไร” ตัวอย่างความคิดเห็น 2-3 ข้อความที่เข้ามาตอบในกระทู้ต้นทางที่กำลังเป็นไวรัลไฟลามทุ่งอยู่ ๊ เวลานี้
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจาก BrandThink ได้เคยออกมาเปิดเผย งานวิจัยหลายชิ้นซึ่งสำรวจพบว่า ผู้ชายนั้นมีแน้วโน้มจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายมีใจ ทั้งที่ความจริงผู้หญิงอาจแค่เฟรนด์ลี่เท่านั้น โดยยกตัวอย่างงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยา (Psychological Science) และงานวิจัยที่พบว่า ผู้ชายมีแนวโน้มคิดไปเองมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากการตีความสัญญะ “จากภายนอก”
เช่น มีความเชื่อว่าผู้หญิงที่แต่งกายเปิดเผยร่างกาย เป็นคนที่สนใจในเรื่องเพศ หรือพฤติกรรมทางกายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งยิ้ม การทำดีด้วย ในขณะที่กลุ่มที่ประเมินความรู้สึกตรงกับความจริงมากกว่ามีแนวโน้มจะประเมินผ่านการแสดงความรู้สึก ไม่ใช่จากพฤติกรรมหรือกิริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ
ขณะเดียวกันนักวิจัย ยังพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มคิดตรงกันข้าม คือ มักจะประเมินต่ำไปจนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีใจ หรือประเมินความรู้สึกเชิงโรแมนติกที่ผู้อื่นมีต่อตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงด้วย (*** หมายเหตุ งานวิจัยที่ยกมานี้ เป็นการสำรวจจากผู้หญิงและผู้ชายเท่านั้น โดยที่ไม่ได้มีการสำรวจในกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศอื่น ๆ)
นอกจากนี้ การตีความแบบผิด ๆ ดังกล่าว บางครั้งยังส่งผลให้อีกฝ่ายรู้สึกกำลังถูกคุกคาม โดยที่ฝ่ายที่เข้าใจผิดไม่รู้ตัวอีกด้วยว่ากำลังทำพฤิตกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากคิดว่าอีกฝ่ายมีใจนั่นเอง.
