อย่างเป็นทางการสำหรับ Pantone เคาะ “Peach Fuzz” เป็นสีประจำปี 2024 กับสีส้มอมชมพูสุดละมุน ชวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่น
คล้ายกับเป็นธรรมเนียมของทุกปีที่สถาบันสีชั้นนำอย่าง บริษัท Pantone กำหนดโทนและรหัสสีประจำปี โดยในปี 2567 นี้ ได้หยิบยกสีชื่อ “Peach Fuzz” หรือสีส้มพีช รหัส #febe98 มาเป็นสีประจำปี 2024 สำหรับเป็นกลางในการต่อยอดผลิตภัณฑ์
Pantone ระบุว่า สี Peach Fuzz ที่เลือกมาเป็นสีที่สื่อถึงความปรารถนาที่จะฟูมฝัก ดูแลทะนุถนอมตนเองและผู้อื่น เป็นเฉดสีที่มอบความรู้สึกนุ่นนวลออ่นโยนราวกับผ้ากำมะหยี่ เพื่อเติมเต็มร่างกายและจิตวิญญาณ มาดูกันสิว่า “ส้ม Peach Fuzz” จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง
สี Peach Fuzz เอาไปต่อยอดอะไรได้บ้าง
การกำหนดเฉดสีจาก PANTONE เปรียบเสมือนการหา “ภาษากลางของสี” ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ วงการเสื้อผ้า ดีไซเนอร์ กลุ่มโปรดักส์ อินทีเรีย รวมถึงกลุ่มสินค้าไอที
เอาง่าย ๆ คือครอบคลุมวงการออกแบบทั้งหมด เนื่องจากมาตรฐานของสีที่ตรงกันจะส่งผลให้แบรนด์ถ่ายทอดภาพลักษณ์ออกมาตามคอนเซปท์
เมื่อลองวิเคราะห์ตามคำกล่าวของ Pantone ที่ว่า Peach Fuzz เชื่อมโยงถึงช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวายในหลายแง่มุมของชีวิต ทุกคนล้วนต้องการการดูแล ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งความคิดนี้จะทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ อาจตีความสีส้ม Peach Fuzz ได้ลักษณะนี้
1. สี Peach Fuzz เป็นสีที่มีความธรรมชาติสูง โทนสีใกล้เคียงกับสีของแสงแดด นำไปจับคู่กับเฉดสีอื่นได้ง่ายและหลากหลายซึ่งเหมาะมากสำหรับอุตสาหรรมสิ่งทอหรือผลิตภัณฑ์ประเภทแก้ว
2. แน่นอนว่าสี Peach Fuzz เป็นสีที่ไม่แบ่งแยกเพศ สีส้มไม่ตายตัวสำหรับเพศใด ซึ่งสอดรับไปกับค่านิยมความเท่าเทียมในปัจจุบัน เหมาะกับสินค้าและบริการด้านสุขภาพที่ต้องการนำเสนอถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี หรือกระทั่งข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ว่าจะคุณจะเป็นเพศไหนก็หยิบใช้ได้อย่างสบายใจ
3. อีกทั้งสี Peach Fuzz เป็นเฉดสีส้มที่สื่อถึงความเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น ความสุข และความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน เข้ากับการนำไปออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน หรือทาสีผนังตกแต่งห้อง เพิ่มความอบอุ่น สดชื่นให้กับบ้านได้อย่างลงตัว
Pantone คืออะไร ความสำคัญของเฉดสี ทำไมต้องประกาศทุกปี
ย้อนกลับไปในอดีต “สีคลาดเคลื่อน” เป็นปัญหาใหญ่สำหรับวงการนักออกแบบ โดยเฉพาะกราฟิกดีไซเนอร์ที่มักจะเกิดปัญหาสีเพี้ยนระหว่างสั่งผลิต สีที่ส่งไปและสีที่ได้จากรงงานไม่ตรงกัน การสั่งผลิตซ้ำ ๆ ทำให้สูญเสียเงินมหาศาล อีกทั้งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องการกำหนดเฉดสีของ Pantone
ก่อนจะมี Pantone โรงพิมพ์แต่ละแห่งใช้ชาร์ตสีของตนเองในการกำหนดค่าสี ปัญหาเกิดเมื่อแต่ละที่ทำตามชาร์ตสีของตนเองทำให้ได้สีไม่ตรงกัน การหาค่าสีมาตรฐานจึงเป็นเรื่องยุ่งยากของกราฟิกดีไซเนอร์
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 Pantone เริ่มต้นใช้ระบบรหัสสีเพื่อกำหนดมาตรฐานสีสำหรับสิ่งพิมพ์ ลดทอนเวลาแก้งานซ้ำ ๆ ให้นักออกแบบ และช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถกำหนดค่าสีประจำแบรนด์ได้แม่นยำขึ้น
Pantone หรือ PMS ย่อมาจาก Pantone Matching System หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “แพนโทน” คือมาตรฐานสีที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากอุตสาหกรรม กำหนดขึ้นโดย Pantone LLC บริษัทผลิตสีอายุกว่า 70 ในสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งความรู้ด้านสีชั้นนำและเป็นผู้กำหนดมาตรฐานการเทียบสีตั้งแต่นั้นมา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : fashionnetwork,gogoprint,thecodecolor
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
