อากาศเย็นกลับมาแล้ว 9-10 ธ.ค. เตรียมเสื้อกันหนาว ยาวกลางเดือน กทม. ลุ้นต่ำสุดแตะ 19 องศา

เพจเฟซบุ๊ก พยากรณ์อากาศประเทศไทย โดย บริษัท ซีพีเอส เวเธอร์ จำกัด และ บริษัท ซีพีเอส อะกริ จำกัด ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เผยข้อมูลพยากรณ์อุณหภูมิล่วงหน้าระหว่างวันที่ 9 – 23 ธันวาคม 2568 ระบุแนวโน้มสภาพอากาศของไทยกำลังจะเข้าสู่โหมด เย็นลง สลับกับอุ่นขึ้น ก่อนจะเข้าสู่ช่วงอากาศเย็นระยะยาวในช่วงกลางเดือน
พยากรณ์อุณหภูมิรายวัน
-
9-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะเริ่มลดต่ำลง
-
11-14 ธ.ค. อุณหภูมิจะขยับสูงขึ้นเล็กน้อย
-
15 ธ.ค. เป็นต้นไป อากาศจะกลับมาเย็นลงอีกครั้ง และมีแนวโน้มจะเย็นต่อเนื่องยาวนาน (ยิงยาว) ให้จับตาพื้นที่โซนสีน้ำเงินและน้ำเงินเข้มในแผนที่พยากรณ์อากาศ
คนกรุงลุ้นสัมผัสลมหนาวเลข 1 นำหน้า
สำหรับพยากรณ์อุณหภูมิในเขต กรุงเทพมหานคร ณ เวลา 07.00 น. ของแต่ละวัน มีแนวโน้มลดต่ำลงจนแตะระดับ 19 องศาเซลเซียสในช่วงกลางเดือน ดังนี้
-
9 ธ.ค.: 21.3 องศา
-
10 ธ.ค.: 21.0 องศา
-
11-14 ธ.ค. (ช่วงอุ่นขึ้น): 23.5 – 24.6 องศา
-
15 ธ.ค.: 20.9 องศา
-
16 ธ.ค.: 20.8 องศา
-
17 ธ.ค.: 21.7 องศา
-
18 ธ.ค.: 20.6 องศา
-
19 ธ.ค.: 19.7 องศา (ต่ำสุดในรอบการพยากรณ์)
-
20 ธ.ค.: 19.9 องศา
-
21 ธ.ค.: 20.1 องศา
-
22 ธ.ค.: 21.5 องศา
-
23 ธ.ค.: 21.3 องศา
ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศจะกลับมาเย็นลงยาวนานตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าโดยกรมอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกพัดความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวนในช่วงวันที่ 9 – 10 ธ.ค. 68
และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร โดยประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้ระวังอันตรายจะฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
8 – 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 8 – 11 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 10 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 14 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 12 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 14 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค.
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 15 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 11 – 12 ธ.ค.
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนกลางและตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 32 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 14 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 11 – 13 ธ.ค.
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 34 องศาเซลเซียส
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



