สรุปดราม่า Sky View cafe จันทบุรี ใครเป็นเจ้าของแน่ ? หลังทวงสิทธิกันวุ่น
ตกลงใครเป็นเจ้าของกิจการแน่ ดราม่า ร้านสกายวิวคาเฟ่ Sky View cafe ที่จันทบุรี ต่างฝ่ายรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีถึงที่สุด ฝ่ายแรกภรรยาปัจจุบันลงทุนทำร้านตั้งชื่อตามลูกบุญธรรม อีกฝั่งครอบครัวภรรยาเก่ายันสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (13 พ.ย.66) ขออนุญาตพาผู้อ่านพบกับดราม่าซึ่งมีตัวแปรสำคัญ คือ กิจการทำมาหากินที่กำลังเป็นประด็นร้อนแย่งสิทธิความเป็นเจ้าของกิจการร้านคาเฟ่ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุนี ที่หลายคนคุ้นหูและสถานที่กันดีในชื่อสกายวิวคาเฟ่ ( Skyview cafe) โดยก่อนที่ทุกคนจะมุดมุ้งไปเสพปมซับซ้อนซ่อนเงื่อนทั้งหมดนั้น
มีความจำเป็นต้องชี้แจงเบื้องต้นก่อนว่า ปมขัดแย้งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างกระบวนการในชั้นศาลแล้ว ซึ่งสุดท้ายข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับว่า “ใครเป็นเจ้าของตัวจริง” ก็คงต้องรอบทสรุปจากคำสั่งของศาล
อย่างไรก็ตาม นาทีนี้เพื่อเป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของชนวนความขัดแย้งจนนำมาสู่การฟ้องร้องคดี ต้องขออนุญาตเริ่มต้นท้าวความไปถึงจุดกำเนิดของดราม่านี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 บัญชีเฟจบุ๊กแฟนเพจ Sky View cafe AT จันทบุรี ยอดติดตาม 3.8 หมื่นคน ออกมาโพสต์แจ้งปิดกิจการเป็นการถาวร พร้อกับขณะเดียวกันก็ได้ขอแจ้งดำเนินคดีกับบุคคลที่เข้ามาบุกรุกและสวมสิทธิ์ครอบครองร้านสกายวิวคาเฟ่ โดยมิชอบด้วยกฏหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2566 จนถึงปัจจุบันอย่างถึงที่สุด
สำหรับเจ้าของเฟซบุ๊กเพจ Sky View cafe AT จันทบุรี ตามการให้ข้อมูลผ่านโพสต์ต้นทางนั้น ทราบชื่อคือ นางสาวภาณิศา หรือ “คุณมุก” ซึ่งได้เปิดกิจการร้านคาเฟ่นี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ 2562 ถึง ปี พ.ศ 2565
ต่อมาเพจ Skyview cafe and restaurant ออกมาอ้างเป็น “เพจจริง”
หลังจากโพสต์แจ้งปิดกิจการไม่นานก็ปรากฏว่า ได้มีเฟซบุ๊กแฟนเพจอีกบัญชีซึ่งใช้ชื่อว่า Skyview cafe and restaurant มีผู้ติดตาม 2.7 หมื่นคน ปัจจุบันเข้ามาทำกิจการร้านคาเฟ่ดังกล่าว โดยมีการขึ้นรูปร้านเดียวกัน พร้อมระบุว่าเป็นเพจจริง ทำการแชร์โพสต์ของเพจร้านของคุณมุก
ก่อนจะระบุว่า ตนเองนั้นชื่อ นางสาวศุภจิตรา หรือ “น้ำแข็ง” ขอใช้พื้นที่ในการชี้แจงเรื่องร้าน ดังนี้
“ร้านเปิดบริการทุกวัน ตนมีน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุตรของนายสงกรานต์ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้มาดำเนินกิจการแทน ได้เป็นเจ้าของร้าน Skyview cafe and restaurant ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 และดำเนินกิจการอยู่จนถึงปัจจุบัน ใครที่แอบอ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของ ทางเราได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากข้อความถึงคู่กรณีว่า “เลิกมโนนะคะหนู เก่งจริงอย่าบล็อก เอาความจริงมาคุย”
นอกจากนี้ ทางเพจดังกล่าวยังโพสต์อีกว่า “ใช้สิทธิ์ความเป็นลูกทำแทนพ่อเนี่ย ต้องมีเอกสารอะไรอ้างอิงเหรอ ใบเกิดก็มี ใบรับรองบุตรก็มี จะเอาไรอีก”
“Sky View cafe AT จันทบุรี” VS “Skyview cafe and restaurant” สรุปพร้อมอัปเดตเหตุการณ์ล่าสุด
หลังจากมีการออกมาเรียกร้องสิทธิ โดยการตอบโต้กันไปมาผ่านโซเชียลก็ทำให้ทราบข้อมูลคร่าว ๆ ว่า คุณมุก เป็นภรรยาคนปัจจุบันของสามีที่ชื่อนายสงกรานต์ หรือ “พี่เอส” ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนคู่กรณี น.ส.ศุภจิตรา หรือ “คุณน้ำแข็ง” เป็นลูกสาวของนายสงกรานต์กับอดีตภรรยาที่ปัจจุบันอยู่กินกับสามีใหม่
โดยฝั่งของมุกเองนั้น เธอได้แชร์โพสต์ของน้ำแข็งลูกสาวตามกฏหมายของสามีที่ล่วงลับพร้อมกับระบุว่า Skyview cafe and restaurant คือ บุคคลอ้างอิงที่เข้าบุกรุกร้านและครอบครองร้าน โดยการใช้วิธีผิดกฎหมาย
คุณมุก เล่าด้วยว่าเธอเองอยู่กินฉันสามีภรรยากับพี่เอส มาเป็นเวลา 11 ปี มีบุตรบุญธรรม 1 คน ชื่อน้องสกาย โดยคุณมุกเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช หนุ่มคนรักทีจากไปเป็นคนเกาะเปริด จ.จันทบุรี โดยอยู่กินกันที่นครศรีธรรมราช 8 ปี ก่อนจะย้ายมาสร้างร้าน จนติดอันดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวของจันทบุรี แต่ต่อมาเมื่อเอส เสียชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากโพสต์ของมุก ระบุ คือ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 จากนั้น 10 พ.ย.65 หลังจากบำเพ็ญกุศลศพเสร็จ พอกลับไปบ้านก็เจอกับคู่กรณีอดีตตภรรยา ซึ่งมีสามีใหม่ไปแล้ว และไม่เคยติดต่อกัมานานกว่า 13-14 ปี (มีลูก ๆ ติดต่อมาบ้าง) ก็เข้ามาทวงสิทธิ์ส่วนแบ่งมรดก
หลังเกิดเรื่อง มุก เล่ามาเธอตัดสินกลับไปตั้งหลักที่บ้าน จ.นครศรีธรรมราช คุยกับทนาย ก่อนที่อีก 2 วันเดินทางไปแจ้งความในพื้นที่จันทบุรี ขอกำลังตำรวจคุ้มกันพร้อมกับเข้าไปเอาเสื้อผ้า ขนของจากที่ร้านบางอย่างเพื่อปิดกิจการชั่วคราว แต่ปรากฏ ผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่าถูกยึดร้านแล้ว โดยอีกฝ่ายไม่ให้เธอซึ่งเป็นเจ้าของเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการ และยึดร้านเป็นของตัวเองทันทีด้วยการงัดกุญแจร้านเข้าไปเอง ซึ่งคุณมุกยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการบุกรุก
อย่างไรก็ตาม น้ำแข็ง ลูกสาวตามกฎหมายก็ออกมาชี้แจงผ่านโพสต์เฟซบุ๊กต่อ ว่า เริ่มแรกร้านนี้เป็นร้านของคุณพ่อเป็นคนก่อตั้งมา ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต ทางปู่กับคุย่าก็ได้ให้ลูกทั้ง 3 คน พี่-น้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลสั่งและไม่มีใครคัดค้านคำสั่ง ซึ่งได้ถูกต้องโดยชอบธรรม
น้ำแข็ง เผยด้วยว่า ก่อนที่จะขึ้นมาทำร้าน ได้มีน้องชายคุณพ่อ (นายสงกรานต์) ชื่อ “อาท๊อป” ขึ้นมาดำเนินกิจการแทนก่อน เพราะคุณน้ำแข็งยังเรียนอยู่ปี 3 แต่ตามคำกล่าวอ้างของฝั่งลูกสาว ระบุว่า เมื่อคนเป็นอาขึ้นมาจะทำหน้าที่ดูแลร้าน ปรากฏฝั่งของมุกไม่ยอม และได้มีการนำชายฉกรรจ์ 5 คน เพื่อมาขนอุปกรณ์ในร้านไปทั้งหมด โดยกลุ่มดังกล่าวยัทำร้ายร่างกายทางอาท๊อป จนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะเปริด ตามคำกล่าวอ้างล่าสุดของฝั่งน้ำแข็งลูกสาว
สุดท้ายเรื่องนี้ คงต้องรอให้ทางศาลช่วยพิจารณาพร้อมกับไต่สวนทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ หลังจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันจะดำเนินคดีกันใ้ถึงที่สุด ขณะที่บนโลกออนไลน์ต่างก็มใีการตั้งคำถามกันไปต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะกับประเด็นที่วิธีการที่ได้มาของร้านใช้วิธีไหนและมีเอกสารยืนยันสิทธิ์ในการเข้าไปทำร้านนี้หรือไม่
นอกจากนี้ประเด็นหลัก “เรื่องเงินลงทุนร้าน” ที่ทางคุณมุก อ้างว่าเธอออกเงินลงทุนเองทั้งหมด โดยนายเอสมีหน้าที่แค่บริหาร ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปรอดูหลักฐานทั้งหมดตอนสู้คดีกันอีกครั้ง.