เปิดประวัติ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จากเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง สู่การนั่งเก้าอี้บริหารสำนักข่าวหลายแห่งของประเทศไทย
จุดเปลี่ยนวงการสื่อเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีข่าว TOP NEWS ได้โพสต์ภาพจดหมายลาออกจากกรรมการบริษัท และทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป เนื่องจากทิศทางธุรกิจของตนและคณะบริหารไม่ตรงกัน โดยตนจะเหลือสถานะเพียงผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียว วันนี้ Thaiger จึงจะพาทุกคนไปรู้จักอดีตผู้บริหาร TOP NEWS ผู้ปลุกปั้นช่องนี้จนกลายเป็นสถานีอันดับ 1 ของอุดมการณ์ฝ่ายขวากัน
เกร็ดประวัติ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้บริหาร TOP NEWS
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ชื่อเดิม สนธิญาณ หนูแก้ว) ชื่อเล่น ต้อย เกิดวันที่ 19 เมษายน 2501 อายุ 65 ปี เป็นชาวอำเภอสีชล จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่กำเนิด ในวัยเด็กมีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากถูกพ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เล็ก ยายและลุงจึงรับเขามาเลี้ยงดูและส่งเสียจนจบระดับชั้นมัธยมปลาย แต่เอนทรานซ์ไม่ติดเลยต้องสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ระหว่างการศึกษานั้น เขาเป็นนักกิจกรรมตัวยง เริ่มชีวิตการทำงานในสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในปี 2529 ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร และจัดตั้งสำนักข่าว ไอ เอ็น เอ็น (INN) ร่วมกับ สมชาย แสวงการ จากนั้นจึงจัดตั้งสยามทีวี แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น ประมูลโครงการทีวีเสรี ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ ในเครือของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่ต่อมาได้ถอนตัวกลับไปบริหารสำนักข่าว ไอ เอ็น เอ็น ดังเดิม เนื่องจากมีปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้น
เขาได้หันหน้าเข้าศึกษาธรรมะในช่วงปี 2540 กับพระครูเมตตากิตติคุณ (สมหมาย อัตตมโน) วัดป่าสันติกาวาส จังหวัดอุดรธานี ทำให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เลิกอบายมุขต่าง ๆ ได้สำเร็จ รวมถึงได้จัดตั้งมูลนิธิและสถานปฏิบัติธรรม ชื่นฤทัยในธรรม อีกด้วย โดยนามสกุลใหม่ของเขามาจากชื่อยาย คือ ยายชื่น เพื่อตั้งเตือนสติตัวเองไม่ให้หลงไปในหนทางแห่งบาป
ต่อมาในวันที่ 4 สิงหาคม 2550 ได้ก่อตั้งสำนักข่าวทีนิวส์ (TNews) เพื่อรายงานข่าวสั้นผ่าน SMS เจ้าแรกของประเทศไทย และได้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีนิวส์ ทีวี (TNews TV) ในปี 2553 ซึ่งมีเนื้อหาวิพากย์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนทำให้ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมเป็นสถานีข่าวผ่านดาวเทียมยอดนิยมในสมัยนั้น
ปี 2560 สนธิญาณถูกเทียบเชิญจาก ฉาย บุนนาค ให้เข้ามาร่วมบริหารเครือเนชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของบริษัท และช่วยทำให้ช่องเนชั่นได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นตาม โดยระหว่างนี้ก็ได้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 แต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เขาได้ลาออกจากเครือเนชั่น เพื่อไปโฟกัสกับสถาบันทิศทางไทย
หลังจากลาออกได้ไม่นาน วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ได้ก่อตั้ง บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด รวมถึงเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ (TOP NEWS) พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และได้ดึงตัวนักข่าวและผู้บริหารที่ลาออกจากเครือเนชั่นมาร่วมงานด้วย แต่ภายหลังมีทิศทางการทำธุรกิจที่ไม่ตรงกับคณะบริหารช่อง ทำให้วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 สนธิญาณได้เขียนจดหมายลาออกจากทุกตำแหน่งในท็อปนิวส์ตามที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้
บทบาททางการเมืองของ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
ในปี 2556 สนธิญาณ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวในข้อหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)
อย่างไรก็ตามวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องคดีเกี่ยวกับ กปปส. แต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ได้แก้คำพิพากษาแก้เป็นให้จำคุก 8 เดือนโดยไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี โดยต้องลุ้นผลการพิพากษาของศาลอาญาอีกครั้ง
