แหล่งข่าวเผย เสี่ยแป้ง มีดีกรีแชมป์มอเตอร์ไซค์วิบาก เคยลงแข่งระดับประเทศ นอกจากนี้ยังเคยเดินทางมาบ้านตระหลายครั้ง คาดชำนาญพื้นที่
จากกรณีที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ เชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษหลบหนีจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา และในช่วงวันที่ 8 พ.ย. ได้มีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเสี่ยแป้งสามารถหลบหนีไปได้ และทางเจ้าหน้าที่ยังคงตามตัวอยู่ในพื้นที่บ้านตระ เขาบรรทัดนั้น
ล่าสุดแหล่งข่าวในพื้นที่เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เสี่ยแป้งเองรู้จักพื้นที่บนเขาบรรทัด บริเวณบ้านตระ และทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เพราะตัวเสี่ยแป้งเป็นนักแข่งจักรยานยนต์วิบาก และเคยมาแข่งจักรยานยนต์วิบากในสนามแข่ง ที่จัดขึ้นในพื้นที่ปะเหลียนมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีความชำนาญการใช้รถจักรยานยนต์วิบากในเส้นทางลาดชันได้ดี และ น่าจะมีพรรคพวกในพื้นที่ อ.ปะเหลียน บางส่วนคอยสนับสนุนช่วยเหลือเช่นกัน
โดยในอดีตเสี่ยแป้ง เคยเป็นนักแข่งจักรยานยนต์วิบาก โมโตครอส ดีกรีแชมป์หลายสนามในภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่จ.ตรัง จ.พัทลุง จ.สตูล และเคยลงแข่งขันในระดับประเทศมาแล้ว ในสังกัดค่ายพรเจริญคาวาซากิ สำนักแต่งรถแข่งรายการโมโตครอสชื่อดังระดับประเทศ โดยในวงการแข่งรถโมโตคอรส ได้มีการส่งต่อภาพของเสี่ยแป้งในอดีตขณะทำการแข่งขันในพื้นที่ภาคใต้ และรับถ้วยแชมป์ โดยไม่ระบุชื่อรายการการแข่งขัน ปี และสถานที่ ซึ่งในวงการเล่าว่าเสี่ยแป้งเป็นคนกล้าเสี่ยงและมีทักษะการขับสูง
พร้อมกันนี้ เสี่ยแป้งเคยเดินทางมายังบ้านตระหลายครั้งแล้ว บางครั้งเคยมาอยู่นานนับเดือน จึงมีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี ตลอดจนรู้จักสนิทสนมกับชาวบ้านบางคนในพื้นที่ จริงมีการเตรียมการพื้นที่ซ่อนตัวไว้บนบ้านตระเป็นอย่างดี และเตรียมการถึงกระทั่งเส้นทางหนีหากเจ้าหน้าที่ไล่ล่าจนพบ โดยอาจมีการเตรียมจุดพักหลบซ่อนภายหลังการนี้ไว้หลายจุด การเตรียมเส้นทางพิเศษเพื่อหนีลงเขา รวมถึงอาจมีการเตรียมรถมอเตอร์ไซค์วิบากซุกซ่อนไว้เพื่อการหนีลงเขาอีกด้วย
อีกทั้งสภาพพื้นที่เป็นป่ารกทึบและสูงชัน หากไม่มีความชำนาญจะเป็นการยากต่อการไล่ล่าติดตาม ซึ่งจุดอ่อนของทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจคือไม่ชำนาญเส้นทาง จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทาง ขณะที่เสี่ยแป้ง ตั้งรับและเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าแล้ว
