สาวตั้งกระทู้ถามในพันทิป ตั้งใจจะซื้อบ้านอยู่กับแฟน 2 คน แต่ฝ่ายชายอยากให้พ่อกับน้อง บวกลูกติดพ่อแฟนอีก 2 คน มาอยู่ด้วย สุดท้ายปรับความเข้าใจไม่ได้ ต้องเลิกราทั้งที่เป็นรักแรก
เรียกได้ว่าเป็นกระทู้อุทาหรณ์เตือนใจได้ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับบรรดาคู่รักหนุ่ม-สาวที่กำลังวางแผนจะใช้ชีวิตครอบครัวกันในอนาคตอันใกล้ เมื่อล่าสุดได้มีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าไปตั้งกระทู้ถาม-ปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ ในเว็บไซต์พันทิป (Pantip.com) หัวข้อกระทู้ระบุ “ตั้งใจจะซื้อบ้านอยู่กับแฟนแค่ 2 คน แต่แฟนอยากให้น้องชาย พ่อและลูกติดของพ่อแฟนอีก 2 คนมาอยู่ด้วย”
สำหรับเนื้อเรื่องโดยสรุปนั้น เริ่มจากฝ่ายหญิงสาวมีเป้าหมายจะใช้เครดิตของตัวเองในการกู้ซื้อบ้านที่อยู่อาศัย แต่ปัญหามาเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายชายเสนอว่า อยากให้พ่อของตัวเองกับน้องชายได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เนื่องจากปัจจุบันครอบครัวของฝ่ายชายยังต้องอยู่แบบเช่าอาศัย
งานนี้ ฝ่ายหญิงยอมรับว่า ได้อธิบายเหตุผลไปตามตรงว่า บ้านที่เธอต้องการจะกู้ซื้อนั้น อยากให้เป็นบ้านของธอกับแฟน 2 คน อีกทั้งฝ่ายหญิงก็ชอบความเป็นส่วนตัวมาก โดยเสนอแนวทางถ้าฝ่ายชายอยากให้ครอบครัวได้มีบ้านเป็นหลักแหล่ง ก็ให้ซื้อที่พักอีกที่หนึ่ง เวลาคิดถึงก็ไปเยี่ยมหหากันได้ แต่เหตุผลหลังไม่ได้รับความเห็นด้วยจากตัวของแฟนหนุ่ม เนื่องจากมองว่าจะเ็นการสร้างปัญหาหนี้สิน 2 ทาง
ปัญหาเรื่องบ้านของทั้งคู่ ถูกหยิบยกมาพูดคุยกันหฃายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุทปที่ตรงกัน จนต่อมาฝ่ายหญิงมีการสอบถามผู้ชายว่า ที่เธอตัดสินใจพร้อมกับให้เหตุผลไปแบบนั้น เธอดูเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือใจแคบหรือไม่ ซึ่งฝ่ายชายก็ตอบกลับว่า “ไม่” เพราะบ้านเป็นชื่อฝ่ายหญิง คงจะไปอะไรไม่ได้ ในเมื่อไม่สะดวกใจจะให้ครอบครัวของตัวเองอยู่ด้วย ได้ยินดังนั้นฝ่ายหญิงจึงยอมรับว่า เธอเองรู้สึกไม่ดีกับคำตอบของแฟนหนุ่มซึ่งนอกจากประโยคที่ระบุว่า บ้านเป็นชื่อขอฝ่ายหญิงแล้ว
ยังมีประโยคที่ฝ่ายชายคล้ายจะประชดประชันว่า “มีแฟนก็หวังจะพึ่งใบบุญแฟน แต่จะทำไงได้ เดี๋ยวสร้างของxxxเองก็ได้ ต่างคนต่างซื้อ ต่างคนต่างอยู่”
ถึงตรงนี้ ฝ่ายหญิง ได้เผยด้วยว่า หลังจากมีเรื่องกันเสร็จ คืนนั้นทั้งคืนเธอถึงกับนอนไม่หลับ เพราะไม่สบายใจและหนักใจมาก
เจ้าของกระทู้ ยังเล่าต่ออีพี 2 พร้อมเผยตอนจบเศร้า
หลังจบจากกระทู้แรก ระยะเวลาห่าสงกันไม่ถึง 24 ชม. ฝ่ายผู้หญิงเจ้าของเรื่องก็เข้ามาอัปเดตความคืบหน้าของเธอและแฟนหนุ่มต่อว่า บรรยากาศทุกอย่างยังคงเป็นแบบเดิม คือ ไม่สามาถปรับความเข้าใจกันได้ กินข้าวโต๊ะเดียวกัน แต่เหมือนนั่งกินข้าวคนเดียว
ต่อมา เความระหองระแหง เริ่มมาคุขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลังจากที่ฝ่ายชายอัปสตอรี่ประมาณว่าจะ “รีเซ็ต” ชีวิตตัวเอง ผู้หญิงเห็นจึงรีบออจากห้งอน้ำเพื่อมาเคลียร์ใจกันทันที
“เราเอาความคิดเห็นที่ทุกคนบอกไปใช้เป็นเหตุผลให้เขาฟัง (ไม่ได้บอกว่าตั้งกระทู้นะคะ แค่เอาความเห็นที่ทุกคนบอกไปพูด)
สุดท้ายแล้วเข าบอกว่า เขาใช้ชีวิตกับคนที่อติกับครอบครัวเขาไม่ได้ ยังไม่ทันจะได้รู้นิสัยใจคออะไรของครอบครัวเขา แต่อติไปก่อน” เนื้อหาบางส่วจากกระทู้ต้นเรื่อง ซึ่งต่อมาฝ่ายหญิงก็มีการให้ข้อมูลซึง่เธอไ้ยินมาว่า น้องชายของแฟนเป็นหนี้เป็นสินกับคนที่ทำงานและมักจะหยิบยืมเงินคนอื่นอยู่บ่อย ๆ ส่วนพ่อแฟนน่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดินมาก่อน แต่เหมือนโดนหลอกให้ลงทุน จนสุดท้ายต้องเสียบ้านไปเลยต้องเช่าอยู่
อย่างไรก็ตาม ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เรื่องนี้ต้องจบลงแบบโศกนาฎกรรมบนโซเชียล ก็เริ่มจากประโยคที่ฝ่ายชายตัดพ้อว่า “รักพี่แต่ไม่รักครอบครัวพี่ เราไปต่อกันไม่ได้หรอก ความคิดเห็นไม่ตรงกันขนาดนี้” จากนั้นเมื่อฝ่ายกญิงถามว่า จะไปไหน กลับได้คำตอบว่า ไม่บอก เท่านั้นไม่พอยังมีคำพูดเสียดแทงมาอีกว่า “ยังคิดได้อยู่หรอว่ากูเป็นแฟน”
ตัวอย่างบทสนทนาของฝ่ายหญิง-ชาย
เรา : “เดี๋ยวนะ นี่ไปทำงานทุกเช้า เวลาถึงเวลากลับส่งข้อความทิ้งไว้ตลอด ส่วนพี่ 2-3 วันที่ผ่าน เห็นข้อความแล้วอ่านแต่ไม่ตอบ ซึ่งมันไม่ปกติ ปกติพี่จะตอบกลับทุกครั้ง แชท*ชื่อเรา*หนักขวาอยู่ข้างเดียว เหนื่อยงาน กลับห้องมาต้องมาเจอบรรยากาศแบบนี้อีก ไม่ไหวอะ”
แฟน : “งั้นก็เลิก แยกย้าย ตามนั้น จะไปอยู่ไป ทำอะไร หรือจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่อะไรก็ตามแต่”
เรา : “พี่พูดเองนะ.. ได้..! อยากไปใช่ไหม *ชื่อเรา*อยู่คนเดียวได้ อยู่ไม่ได้ก็จะอยู่ให้ได้” (พูดไปนำตาอาบแก้มไป เสียใจมากจริงๆที่ได้ยินคำพูดพวกนี้พ่นออกมาจากปากแฟน
สุดท้าย เจ้าของเรื่องพิมพ์ข้อความยอมรัว่า ตัวเธอเองไม่ทราบว่าไม่พรุ่งนี้หรือวันข้างหน้าจะเจ็บปวดใจแค่ไหน แต่อาจจะถึงเวลาแล้วที่ต้องยอมรับ ยอมเจ็บให้จบจริง ๆ เพราะต้องเริ่มชีวิตใหม่แล้วจริง ๆ และตัวเธอเองอายุก็ยังไม่เยอะ แม้จะยอมรับว่าแฟนคนนี้เป็นแฟนคนแรกและเป็นคนแรกที่เเริ่มทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยกัน เปิดใจกับคนนี้เป็นครั้งแรก เลยไม่อยากลองเริ่มอะไรใหม่กับใคร คิดว่าแฟนจะสามารถปรับตัว ปรับทัศนคติเข้ากันได้ แต่สุดท้ายไม่เป็นแบบที่คิด.
สำหรับใครที่อยากเข้าไปอ่านกระทู้ฉบับเต็ม คลิกที่นี่
