บันเทิงแฟชั่นและความงาม

ส่องทรงผม ‘อาร์ต พศุตม์’ พร้อมขั้นตอนการเซ็ตฉบับมือใหม่ หล่อได้ไม่ง้อช่าง

ชวนส่องทรงผม “อาร์ต พศุตม์” หลังโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพคู่แฟนสาว ทำเอาชาวเน็ตหลุดโฟกัสกันไม่ไหวกับลุคหล่อ เนี้ยบ มีสไตล์ ต้องเซ็ตยังไงถึงจะได้แบบนี้

กลายเป็นที่จับตามองของโลกโซเชียลมากขึ้น สำหรับนักแสดงหนุ่มหล่อกล้ามบึก อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม หลังตกเป็นประเด็นคู่จิ้นกับสาว นาฟ ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์ กระทั่งล่าสุดชาวเน็ตได้มีการแห่แชร์ภาพคู่ของฝ่ายชายกับแฟนสาวตัวจริง พร้อมโฟกัสไปที่ทรงผมของหนุ่มอาร์ต ที่ดูดีจนหลายคนอยากทำตาม วันนี้ทีมงาน Thaiger ไม่พลาด พาทุกคนไปตะลุยบาร์เบอร์หาคำตอบพร้อม ๆ กัน

Advertisements

ทรงผมของอาร์ต พศุตม์ มีชื่อว่า ทรงเปิดข้าง (Medium Side Swept) เป็นการแสกผมให้เป๋ไปด้านใดด้านหนึ่งที่ดูแล้วเข้ากับโครงหน้าตัวเอง โดยผมทรงนี้จะช่วยเสริมลุคหล่อ ๆ ให้ดูแบดบอยมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ ที่มีผมยาวปานกลาง เพราะหลังจากเซ็ตออกมาแล้วก็จะได้ความยาวในระดับพอดี

ทรงผมอาร์ต พศุตม์

3 ขั้นตอนเซ็ตผมแบบอาร์ต พศตุม์ ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

1) วอร์มแวกซ์บนฝ่ามือ หลังจากนั้นค่อย ๆ ใช้มือเสยผมไปทางด้านหลัง หากกลัวไม่เนี้ยบสามารถใช้หวีช่วยได้

2) จากนั้นให้เลือกปัดเป๋ไปข้างใดข้างหนึ่งที่เข้ากับรูปหน้า แล้วแสกผมที่อยู่ด้านข้างเก็บไปด้านหลังให้ดูเหมือนเป็นการเปิดข้าง โดยพยายามอย่าลูบผมให้ติดไปกับศีรษะ เพราะจะทำให้ขาดวอลลุ่มและดูลีบแบนเกินไป

Advertisements

3) เมื่อได้ทรงผมตามที่ต้องการแล้ว ก่อนออกจากบ้านไปอวดความหล่อเรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ สามารถฉีดสเปรย์ปิดท้ายเพื่อให้ผมอยู่ทรงได้ทั้งวัน และป้องกันไม่ให้ผมเสียทรงอีกด้วย

ส่วนใครที่อยากจะเนรมิตทรงผมของตัวเองให้ออกมาเป็นแบบหนุ่มอาร์ตแล้วล่ะก็ สามารถนำแบบไปยื่นให้ช่างดูเป็นตัวอย่างหรือจะแจ้งชื่อทรงว่า Medium Side Swept ก็ได้ แต่ขอแนะนำว่าควรเลือกร้านที่ช่างมีความถนัดในการตัดหรือออกแบบทรงผมผู้ชาย ก็จะทำให้ได้ลุคหล่อ ๆ ที่ออกมามัดใจสาวได้อย่างอยู่หมัดแน่นอน

วิธีเซ็ตผมแบบอาร์ต พศุตม์

เซ็ตผมแบบอาร์ต พศุตม์

 

 

Bigaine

นักเขียนข่าวบันเทิงประจำ Thaiger มีชีวิตเพื่อเสพข่าวบันเทิงทั้งไทยและต่างประเทศ ประสบการณ์ทำข่าวในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี พร้อมนำเสนอข่าวดารา ละคร ความงามในรูปแบบอาหารจานด่วนที่อร่อยย่อยง่าย จบการศึกษาสายวารสารศาสตร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button