ก้าวไกล ลงดาบไล่ ‘สส.แจ้’ พ้นพรรค ส่วน ‘สส.ปูอัด’ รอด กรณีคุกคามทางเพศ
ก้าวไกล ลงดาบไล่ สส.แจ้ พ้นพรรค ส่วม สส.ปูอัด รอดแต่ถูกคาดโทษ ต้องแสดงความรับผิดชอบ หลังจากทั้งสองถูกกล่าวหาว่าได้คุกคามทางเพศ
นาย ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงมติการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคก้าวไกล จากกรณีที่ สส. ก้าวไกล 2 คนถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ โดยทางพรรคได้ใช้เวลาประชุมตั้งแต่ 17.00 -23.00 น. รวมเวลากว่า 6 ชั่วโมง
โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุว่าคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีความผิดจริง และมีมติให้ขับออกจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ การที่จะขับสมาชิกพรรคให้พ้นจากพรรคจะต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งในวันนี้มีกรรมการบริหารและสส. มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 128 คน
ผลจากการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับสส.เห็นตรงกันว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง โดยโทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้คือขับให้พ้นจากสมาชิกพรรคและโทษรองลงมาคือตัดสิทธิ์ทั้งหมด รวมถึงคาดโทษตามแต่กรณี
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ผลการลงมติของที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรคให้นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 120 เสียง
ส่วนนายไชยามพวาน เสียงส่วนใหญ่ เห็นควรให้ขับเอาสมาชิกพรรค 106 เสียง แต่เนื่องจากว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 คือ 116 เสียง ของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ที่มีอยู่ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถมีมติที่จะขับ นายไชยามพวานออกจากพรรคได้
แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรจะตัดสิทธิพึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมใดๆที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก จะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นว่า นายไชยามพวานจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษต่อสังคมและขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงจะต้องชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ หากนายไชยามพวานยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษต่อผู้เสียหาย และไม่ยินดีที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.พรรคก้าวไกลร่วมกันอีกครั้งเพื่อมีมติต่อไป
เมื่อถามว่าอาจจะมีข้อสงสัยว่าอีกคนหนึ่งขับออกจากพรรค แต่อีกคนหนึ่งไม่ขับออกจากพรรคนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เราประชุมกันนานมาก คณะกรรมการวินัย คณะกรรมการบริหารพรรคและสส. ของพรรค เห็นตรงกันว่า สส. ทั้ง 2คน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรง แต่เมื่อกระทำความผิด ก็มีบทลงโทษหลายระดับ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นว่า นายไชยามพวาน แม้จะเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เจ้าตัวจำเป็นจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษรวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และมีข้อถกเถียงกันมากในที่ประชุม
ซึ่งต่างจากกรณีนายวุฒิพงศ์ ที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมดว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาทตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. มาจนถึงการเป็น สส. และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการคุกคามทางเพศ รวมถึงพยายามที่จะใช้อำนาจของตนเองในการปกปิดความผิด จึงทำให้สส. จำนวนหนึ่งเห็นว่ามาตรการในการลงโทษรุนแรงแตกต่างกัน
เมื่อถามว่าในกรณีการขับออกจากพรรคของนายวุฒิพงศ์นั้น เป็นการตัดหางปล่อยวัดหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทลงโทษของพรรคเท่าที่ทำได้
หลังจากนี้ พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมา ที่มีนางสาวเบญจา แสงจันทร์ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยจะปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นอีก รวมถึงมีมาตรการและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในพรรค ซึ่งรวมถึงการอบรมด้วย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคย้ำคุณค่าและให้ความสำคัญกับการไม่อดทนต่อการคุกคามทางเพศแต่ต้องยอมรับว่าในหลักการคนจะรับรู้ แต่ในทางปฏิบัติความเข้าใจในแต่ละคนไม่เท่ากัน ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ อะไรไม่ใช่คุกคามทางเพศ สำหรับเรื่องนี้เป็นบทเรียนของพรรค ถ้าหากใช้บทบาทหน้าที่และอำนาจของตนเอง ไปมีพฤติการณ์ในการคุกคามทางเพศ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจ ไม่เกิดการปฏิเสธและดูเหมือนจะเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง แต่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน
จับตาพรุ่งนี้! ‘ก้าวไกล’ เผยสอบสวน 2 สส. ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ เสร็จแล้ว