ทนาย ‘ลุงพล’ เผยข้อสันนิษฐาน ‘น้องชมพู่’ วิ่งตามสุนัข หลงป่าจนหมดลมหายใจ
ทนายลุงพล เผยข้อสันนิษฐาน น้องชมพู่ วิ่งตามสุนัข หลงป่าจนหมดลมหายใจ ชี้ถ้าลุงพลอุ้มไปจริง น้องชมพู่น่าจะขัดขืน จนเกิดรอยแผลบนตัว ลุงพล
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น พร้อมทนายความได้ร่วมตั้งโต๊ะแถลงเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนฟังคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค.2566 ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยทนายความของลุงพลกล่าวว่า มีข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ว่า น้องชมพู่วิ่งตามสุนัขออกไป และผจญในป่าไปเรื่อยๆ จนหมดลมหายใจ โดยมีหลักวิชาการอ้างอิง มีการเบิกความจากครูฝึกสุนัขทหาร ส่วนเรื่องพลังงานนอกจากอาหารที่กินเข้าไป อาจใช้พลังงานจากตับหรือไขมัน และกล้ามเนื้อของน้องร่วมด้วย ส่วนเรื่องรอยขีดข่วนตามร่างกายไม่ได้ถูกกระทำ แต่อาจเป็นบาดแผลจากต้นไม้ในป่า
ซึ่งหากนายไชย์พล อุ้มน้องขึ้นภูจริง ตามธรรมชาติเด็กต้องร้องไห้และขัดขืน นายไชย์พลต้องทำร้ายร่างกายเพื่อไม่ให้ขัดขืน แต่การตรวจสอบร่างกายของศพไม่มีการทำร้ายร่างกาย และไม่ปรากฏรอยขีดข่วนบนร่างกายของนายไชย์พลเช่นกัน
ส่วนเรื่องของเส้นผมที่พบในที่เกิดเหตุ ไม่มีพยานพบเห็นว่าใครทำ ไม่ปรากฏ DNA ซึ่งเส้นผมนั้นอาจจะขาดด้วยการถูกสัตว์ป่ากัดแทะก็เป็นได้ เช่น หนู หรือ แมลงสาบ
ก่อนหน้านี้ลุงพลและป้าแต๋น ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองล้านเปอร์เซ็นต์ ว่าตนเองและป้าแต๋นไม่ได้ฆ่าน้อง โดยเหตุการณ์ตอนที่น้องชมพู่หาย ตนเองอยู่กับแม่ของน้องชมพู่ ดังนั้น คนที่ตอบได้ดีที่สุดคือพี่สาวของน้องเพราะอยู่กับน้องเป็นคนสุดท้าย
‘ลุงพล-ป้าแต๋น’ ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ฆ่า ‘น้องชมพู่’ ศาลสั่งเลื่อนฟังคำพิพากษา