ข่าวดาราบันเทิง

“นุ๊ก สุทธิดา” เตรียมตัวตาย สั่งเสียลูกและสามีแล้ว เผยแพนิกกำเริบหลังคอนเสิร์ต

แฟนคลับช็อก “นุ๊ก สุทธิดา” ประกาศเตรียมตัวตาย เผยสั่งเสียลูกและสามีแล้ว กินยาเยอะ มีอาการแพนิกกำเริบหลังคอนเสิร์ตใหญ่ พร้อมอัปเดตการเลี้ยงลูก

หลังจากที่นักร้องสาวสวย นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ออกมาเปิดเผยอาการป่วยทั้งโรคมะเร็งไทรอยด์และโรคซึมเศร้า รวมถึงอาการแพนิก โดยเธอต้องเอาชนะกับอาการป่วยพร้อม ๆ กับการเลี้ยงลูก ๆ แม้ว่าเธอจะมีกำลังใจ และพบแพทย์อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่นักร้องสาวก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้สั่งเสียลูกและสามีแล้วเรียบร้อย

Advertisements

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2566 นุ๊ก สุทธิดา พร้อมกับลูกชาย 2 คนคือ น้องปิ๊ปโป้ และ น้องอดัม ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน31 โดยนุ๊กได้ออกมาเปิดใจว่า อาการแพนิกที่กำเริบหลังจบคอนเสิร์ตใหญ่อยู่ในขั้นตอนการรักษา ส่วนลูก ๆ ได้สอนเรื่องการมีแฟนและการดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมเตรียมตัวตายเป็นที่เรียบร้อย

นุ๊ก สุทธิดา
ภาพจาก YouTube : Orange Mama

ตอนต้นของรายการพิธีกรสอบถามเรื่องอาการป่วยล่าสุดของนุ๊ก ซึ่งนุ๊กตอบว่า “ตอนนี้มะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ ตัดทิ้งไปเลย มีผลต่อร่างกายมาก โดยเฉพาะฮอร์โมน ทำให้เราแก่ก่อนวัย รวมไปถึงอาการซึมเศร้า ปกติผู้หญิงเริ่มเข้าวัยทองตอนอายุ 40 อารมณ์จะสวิง แต่คนที่ไม่มีต่อมไทรอยด์จะสวิงกว่ามาก

ตอนนี้ประคองตัวเองในทุกวาระโอกาส พอซึมเศร้าหายไป แต่โรคแพนิกยังอยู่ ถ้าเราดูแลตัวเองไม่ดี อย่างในคอนเสิร์ตล่าสุดแพนิกกลับมา เหมือนว่าเราพักผ่อนน้อย โรคเลยส่งสัญญาณมา เวลากำเริบกล้ามเนื้อจะเกร็ง ใกล้เคียงตะคริว ปวดตามข้อ หนักมากก็ช็อก หัวใจวายได้ ทั้งยังอาจต้องกินยาตลอดชีวิต วันหนึ่งกินยาเยอะมาก แต่ต้องเลือกกินเฉพาะตัวที่คุ้มค่ากับตับไต”

เมื่อถามว่าเหตุใดตอนที่ป่วยจึงไม่อยากให้ลูกรับรู้ นักร้องสาวก็ได้เปิดใจว่า “ไม่อยากรบกวนพวกเขา คนรอบข้าง เพราะลูกคิดว่าแม่เป็นไอรอนแมน เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เราเป็นดารา ถ้าเราไม่พร้อม เราไม่อยากเจอใคร ถ้าโอเคจะออกมาเจอเอง ถ้าไม่สบาย เกิดอาการเครียด กล้ามเนื้อเกร็งจะขอเพื่อนกลับบ้านก่อนเลย เพราะถ้าฝืนมันจะเหนื่อยมาก”

นุ๊ก สุทธิดา สั่งเสียสามีและลูก
ภาพจาก YouTube : Orange Mama

หลังจากอัปเดตอาการแล้ว นุ๊กได้ตอบคำถามเรื่องเกี่ยวกับลูก ๆ โดยนุ๊กเปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่พาน้องปาแปง ลูกชายคนกลางออกสื่อ เนื่องจากเขาค่อนข้างมีโลกส่วนตัว ห้ามถ่ายรูปเขา ห้ามพาออกโทรทัศน์ เราก็ให้คำแนะนำนิดหน่อย บางเรื่องเราต้องปล่อยให้เขาตัดสินใจเอง

Advertisements

ส่วนน้องปิ๊ปโป้ ลูกชายคนโต ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า “แม่นุ๊กหวงมาก ตอนมีแฟนแม่โทรมาตลอดว่าอยู่ที่ไหน ตอนไปเที่ยวแม่ก็ถาม แต่เคยปรึกษาเรื่องแฟนกับแม่ แม่ก็บอกว่าต้องสวยให้เท่าแม่ด้วย” นอกจากนี้นุ๊กเสริมด้วยว่า “มีช่วงหนึ่ง ตอนนั้นปิ๊ปโป้เด็กเกินกว่าจะมีแฟน เราก็ล้อแฟนลูก หรือแกล้งแซวแฟนลูก เพราะอยากให้เขาเลิกกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้หวงแบบนั้นแล้ว

ถ้าเป็นตอนนี้ ลูกต้องเลิกกับแฟนเพราะเราจะเสียใจมาก เพราะรักแฟนลูกเหมือนลูกสาวอีกคน เราชอบที่ลูกจะมีแฟน มีหน้าที่ซัพพอร์ตให้เขาลองผิดลองถูก มีหน้าที่ให้ข้อคิดเขา แต่จะไม่ได้ห้ามว่าจะต้องเลิกหรือจะคบ มันเป็นสิทธิ์ของเขา”

นอกจากนี้ ปิ๊ปโป้ได้เปิดอกบอกความในใจกับแม่นุ๊กด้วยว่า “ตนชอบหนีไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่เคยไปเที่ยวกับสาวเลย” ซึ่งนุ๊กก็ตอบกลับว่า ตนรู้ แต่ที่เคยพูดว่าโทรตามไม่ได้หวง แต่เป็นห่วงลูก อยากให้ส่งข่าวมาเรื่อย ๆ เวลาไปไหนมาไหน ตอนนั้นเด็กมาก แถมไม่ได้กลับ 2 – 3 ทุ่ม แต่กลับดึกกว่านั้นอีก

นุ๊กเล่าเรื่องการสอนลูกเกี่ยวเรื่องเพศและแอลกอฮอล์ด้วยว่า ตนได้พูดเรื่องเพศบ้าง พอโตเขาก็จะเรียนรู้ เรื่องการตั้งครรภ์ หรือเรื่องโรคติดต่อ แต่ไม่ได้พูดจริงจัง ส่วนพ่อก็สอนด้วยเหมือนกัน ลูกก็ปฏิบัติตามคำพ่อแม่สอน แต่ถ้าเป็นปาแปง เราพูดได้ไม่เกิน 3 ประโยค ก็จะสอนแบบเนื้อ ๆ ไม่พูดไปเรื่อย ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์ เคยพาไปลอง ส่วนปิ๊ปโป๊บอกว่า ตอนนี้ไม่ได้ไปดื่มเลย

น้องปิ๊ปโป้ น้องอดัม
ภาพจาก YouTube : Orange Mama

เมื่อถามถึงเรื่องปาแปงที่สอบติดทันตแพทย์แต่ไม่เรียน นุ๊กบอกว่า “เขาเป็นคนอาร์ตติส แต่เรารู้ว่าเขาไม่เรียนหรอก ถ้าไปเรียน มันต้องย้ายที่อยู่ จ้างค่าเช่าหอ รวม ๆ เป็นแสน แต่เรียนได้ 3 วันกลับบ้าน เพราะเขาบอกเข้ากับใครไม่ได้ ซึ่งเราต้องซื้อทุกอย่างตามมาตรฐานเขา และเราก็บอกแล้วว่าการเป็นแพทย์มันจะมีมาตรฐานของเขา แต่เราก็ไม่ได้บอกอะไร เพราะการที่เรือที่หาไม่เจอ คือครูที่ดีที่สุด”

ในช่วงท้ายนุ๊กได้บอกว่า ตนเตรียมตัวตายแล้ว เพราะตอนนี้ได้สั่งเสียกับลูกและสามี เราผ่านปากเหวมาแล้ว ความตายมันเคยอยู่ตรงหน้า เราไม่สามารถรู้เลยว่าเราจะตายตอนไหน เราก็คุยกับลูก สามี ติดตลก ขำ ๆ ไม่อยากให้เครียด แม่ก็บอกว่าถ้าแม่ไม่อยู่ ขายได้นะ แม่ไม่ได้ซีเรียส ให้น้องเรียนจบก่อน หาร 3 เท่ากัน

ส่วนสามียังไม่ได้บอก เพราะเราค่อย ๆ ให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งจบและมาใช้ชีวิต วันที่เขาเริ่มดูตัวเองได้ เราก็เริ่มบอก เราจดเป็นเล่ม ให้เขาเอาไว้ดู ซึ่งเราไม่ได้ห่วงอะไร มันต้องอยู่ให้ได้ถ้าใครคนหนึ่งจะไม่อยู่

เป็นอีกหนึ่งคุณแม่ที่สตรองและเข้มแข็งมากจริง ๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณนุ๊กสุขภาพดีขึ้นในเร็ววัน และอยู่เป็นผู้ที่คอยชี้แนะแนวทางให้ลูก ๆ ทุกคนต่อไป

Kamonlak

นักเขียนข่าวประจำ Thaiger ผู้มีความสนใจที่หลากหลาย มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเขียนข่าวการเงิน เศรษฐกิจ จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานอดิเรก ติดตามข่าวสารความบันเทิง โดยเฉพาะภาพยนตร์และแอนิเมชัน เขียนงานโดยมีแนวคิดที่ต้องการถ่ายทอดมุมมองของตัวเองและถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ช่องทางติดต่อ kamonlak@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button