ข่าวข่าวต่างประเทศ

สาวเวียดนาม แชร์เรื่องราว นอนไม่หลับ 11 ปี เริ่มต้นจากร้องไห้ไม่มีเหตุผล

สาวเวียดนาม แบ่งปันเรื่องราว นอนไม่หลับ 11 ปี เริ่มต้นจากร้องไห้กลางดึกโดยไม่มีเหตุผล ไปหาหมอแล้วก็ไม่หาย ยังตั้งความหวังว่าจะนอนหลับซักวัน

เมื่อวันที่ 13 กันยายน เว็บไซต์ ออดิตีเซนทรัล รายงานกระแสในประเทศเวียดนาม หลังจากที่นาง ไท ที ลู พนักงานโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนในเมืองกว่างไหงออกมาเปิดเผยว่า เธอนอนไม่หลับมา 11 ปีแล้ว โดยเธอเล่าว่าจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากที่เธอร้องไห้ทุกคืนแบบไม่มีสาเหตุ แม้เธอจะพยายามข่มตานอนยังไงก็ตามก็น้ำตาก็ไม่หยุดไหล ท้ายที่สุดเธอก็หยุดร้องไห้แต่แลกมาด้วยว่าเธอนอนไม่หลับแทน

Advertisements

นาง ลู เล่าว่าเธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะนอนหลับ แต่แม้ว่าเธอจะล้าขนาดไหนก็ตาม จิตใจของเธอตื่นตลอด และตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา เธอได้แต่หลับตาเพื่อพักผ่อน ขณะที่สามีและลูกนอนหลับสนิท

เธอยืนยันว่าเธอไม่ได้แต่งเรื่องนี้เอง เพื่อจะเอายอดไลค์หรือได้ยอดวิว พร้อมบอกด้วยว่าถ้าดูรอบตาของเธอจะมีรอยคล้ำ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผิวใต้ตาของเธอไม่ได้เป็นเช่นนี้

หญิงวัย 36 ปีคนดังกล่าวเคยไปหาหมอเพื่อหวังว่าหมอจะมีทางออกให้กับเธอ ซึ่งหมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคนอนไม่หลับอย่างรุนแรง ซึ่งหมอก็ได้ให้ยามาทาน ทว่าเมื่อเธอทานยานี้เธอปวดขารุนแรงจนเดินไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล และด้วยผลข้างเคียงที่รุนแรงและราคายาที่แพงทำให้เธอหยุดยาในที่สุด

ทั้งนี้นาง ลู ยังเล่าอีกว่าจากอาการนอนไม่หลับทำให้เธอปวดตัว ปวดท้องบ่อย แต่เธอก็ยังกำลังใจดีและขอบคุณสามีของเธอ โดยเธอหวังว่าซักวันเธอจะสามารถนอนหลับได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่คนเดียวที่นอนไม่หลับในประเทศเวียดนาม เพราะก่อนหน้านี้มีชายชื่อ ท้าย หง็อก ชายชาวเวียดนามวัย 81 ปี ที่อ้างว่าเขาไม่ได้นอนหลับมาตั้งแต่ปี 2516 หรือเป็นระยะเวลานานกว่า 50 ปี ทั้งนี้นาย ท้าย หง็อก บอกว่าเขาแข็งแรงดีแม้ว่าเขาจะนอนไม่ได้ก็ตาม

Advertisements

รู้จัก ‘ท้าย หง็อก’ ชาวเวียดนามไม่ได้นอนมา 50 ปี ร่างกายยังแข็งแรง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button