ข่าว

ศาลสั่งจำคุก 4 ผู้ต้องหา เผารถตำรวจ ม็อบ 11 มิถุนายน 65 ไม่รอลงอาญา

ศาลสั่งจำคุก 4 ผู้ต้องหา เผารถตำรวจ ใต้ทางด่วนดินแดง ในการชุมนุมม็อบ 11 มิถุนายน 65 ไม่รอลงอาญา เตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อไป

ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวัชรพล นาคสวย นายพลพล จิตรสุภาพ นายจตุพล บุญพูล และนายณัฐพล เหล็กแย้ม ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 14 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย, ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

Advertisements

อัยการโจทก์ ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 ต่อเนื่องถึงเวลากลางคืน จำเลยกับพวกประมาณ 50-80 คน รวมเยาวชนชายอีก 2 คน ซึ่งถูกแยกตัวดำเนินคดีได้ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ถนนวิภาวดี ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย

นอกจากนี้พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่หมายเลขทะเบียน 07444 และรถยนต์หมายเลขทะเบียน 6 กจ 5593 กทม. ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 215 216 ,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (9) จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

โดยจำเลยทั้ง 4 คน และทนายเดินทางมาตามหมายนัด นอกจากนี้ยังมี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวังกลุ่ม และเพื่อนมาร่วมให้กำลังใจด้วย

หน้าที่ตำรวจ 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า ในวันเกิดเหตุ มีการชุมนุมปราศรัยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสร็จแล้ว เวลา 18.00 น ต่อมาหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดและภาพจากสื่อออนไลน์แล้วพบว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คนขี่รถจักรยานยนต์ มาร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขว้างปาสิ่งของ ยิงลูกแก้วหนังสติ๊ก ประทัดและลูกกระทบ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1,3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผาทำลายรถยนต์ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้งสาม กระทำผิดตามฟ้องจริง

Advertisements

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1,3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก ฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1, 3 และ 4 มีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว เห็นควรให้จำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา

ส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่า กระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุดแต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่าจำเลยที่ 2 ร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

ขณะที่ทนายความของจำเลยทั้ง 4 เตรียมยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีต่อไป

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button