เจ้าหน้าที่คุมตัว ทักษิณ ชินวัตร ส่งศาลฎีกา ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังยังมีคดีติดตัวอยู่ 3 คดี โทษจำคุก 8 ปี
หลังจากที่นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงประเทศไทย ด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว Gulfstream G650 โดยลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเวลาประมาณ 9.01 น. และจอดสนิทในเวลา 9.05 น. ก่อนที่นายทักษิณจะออกมายกมือไหว้มวลชนและกราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวนายทักษิณ เพื่อเตรียมนำส่งไปยังทางศาลฎีกา และ ส่งตัวเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นายทักษิณต้องโทษอยู่ 3 คดี ได้แก่
1.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เม.ย.2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี
2.คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิ.ย.2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่ได้ขอให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์
3.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2563 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 5 ปี และให้นับโทษต่อจากคดี เอ็กซิมแบงก์ (คดีที่ 1) และหวยบนดิน (คดีที่ 2) เนื่องจากคดีหวยบนดิน ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์
โดย ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และอาจารย์ผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความและกฎหมายพยานหลักฐาน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) อธิบายว่า คดีเอ็กซิมแบงก์กับคดีหวย บนดินจึงจะนับโทษซ้อนกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ที่บัญญัติให้โทษจำคุกเริ่มตั้งแต่วันมีคำพิพากษา ซึ่งวันที่นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยวันนี้ ศาลจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดหรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุกในคดีเอ็กซิมแบงก์และหวยบนดิน ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2566 เป็นต้นไป พร้อมกันทั้ง 2 คดีเลย
ส่วนคดีชินคอร์ป ศาลฎีกาจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดหรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุก หลังจากที่รับโทษในคดีเอ็กซิมแบงก์และคดีหวยบนดินเสร็จสิ้นแล้ว รวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี (3 ปี (คดีที่ 1= 3 ปี, คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน ) +5 ปี)
