‘อาร์ต พศุตม์’ เผยสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาช่อง แต่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านขายหมูกรอบ ลั่น ถูกเพื่อนในวงการแทงข้างหลัง เป็นปมที่เก็บไว้ในใจนานกว่า 17 ปี
ดาราหนุ่มที่ผันตัวจากนักแสดงไปเป็นพ่อค้าขายหมูกรอบชื่อดัง อย่าง อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม ซึ่งก่อนหน้านี้อาร์ตไม่ต่อสัญญาช่องเก่า และไปเปิดธุรกิจจนมีกระแสโด่งดังขึ้นมา ล่าสุด วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 อาร์ตได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญา ผ่านทางรายการ WOODY INTERVIEW โดยมี วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ซึ่งในตอนต้น วู้ดดี้กล่าวว่า อาร์ตเป็นผู้ที่มี sex symbol (เป็นคนที่มีเสน่ห์) ตอนนี้อายุ 40 กว่า มีความสุขกับหน้าเตา แต่ย้อนกลับไปตอนที่เป็นดารา วู้ดดี้ตั้งคำถามอยู่เสมอ เหมือนในแววตามีความทุกข์อยู่เสมอ ทั้งงานยังมีบ้างไม่มีบ้าง แบบนี้มีปมอะไรที่เกี่ยวกับวงการหรือนักแสดง ซึ่งวู้ดดี้บอกว่าอาร์ตสามารถพูดออกมาได้
หลังจากได้ฟังคำถามดังกล่าวของวู้ดดี้ อาร์ตก็ได้เผยความในใจออกมาว่า เขาไม่ได้เซ็นสัญญาต่อ มันก็มีปม แต่ถามว่าเคลียร์ไหม มันก็ได้เคลียร์ก่อนยกเลิกสัญญา คือจริง ๆ เป็นการโดนขัดแข้งขัดขามากกว่า
โดยอาร์ตเล่าว่า ตอนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่ง รุ่น ๆ เดียวกับอาร์ต และอาร์ตได้ผลงานละครก่อน 2 เรื่อง บุคคลนั้นก็มาถามอาร์ตว่าทำงานอะไรอยู่ ซึ่งอาร์ตก็ตอบไปว่ามีละคร 2 เรื่อง ปรากฏว่าคนที่มาถามดันไปบอกคนที่ดูแลศิลปินแผนกนึงว่า อาร์ตไปอวดงาน ทั้งที่คนนั้นเป็นคนถาม ทำให้อาจโดนตำหนิ
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น อาร์ตได้เล่าให้ฟังอีกว่า อาร์ตนึกได้ว่าพูดกับคน ๆ นึง อีกทั้งตนเป็นประเภทที่ต้องจับตัวคนทำให้ได้ อาร์ตจึงปล่อยข่าวไปในหลายทิศทาง จนในที่สุดเรื่องถึงผู้ใหญ่ อาร์ตเลยเข้าใจว่า บุคคลที่มาถามเรื่องงานกับอาร์ตไม่ใช่เพื่อนตนแล้ว พยายามแทงตนแล้ว
หลังจากนั้นมันก็มีเรื่องราวแบบแย่ ๆ มาสักพัก และคำตอบสุดท้ายของเขาคนนั้นคือ ถ้าไม่มีอาร์ตก็จะได้เป็นพระเอกแทน ซึ่งอาร์ตก็ได้เสริมว่า มันคนละคาแรกเตอร์เลย แต่สิ่งที่เสียใจที่สุดคือ ในที่ทำงานเก่าของอาร์ต จะมีแผนกดูแลศิลปิน และมีพี่คนนึงที่ดูแลอาร์ตอยู่ ซึ่งอาร์ตก็ได้ถือบทไปให้พี่คนดังกล่าว และบอกว่าตนอยากเล่น แต่คำตอบที่ได้คือไม่ให้เล่น
แต่ในระหว่างนั้น พระเอกคนอื่น ๆ ได้เล่นหนังหมดแล้ว ซึ่งเราก็มีคำถามว่าทำไม แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป แต่ในท้ายที่สุดก็มาทราบว่า เพื่อนคนที่เคยแทงข้างหลังได้บทพระเอกเรื่องนั้นไป ในตอนนั้นน้ำตาร่วงเลย ทำไมเขาทำแบบนี้ เราเสนอทุกอย่าง ทำให้ทุกอย่าง พูดทุกวันนี้ยังเสียใจเลย
ในตอนหลังพี่คนนั้นก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ออกจากที่ทำงานเก่าไปบวช และในตอนที่บวชก็ได้โทรมาขอให้อาร์ตอโหสิกรรม เพราะตอนนั้นเขาแอบขัดขาเรานิด ๆ ไปให้งานอีกคนแทน
วู้ดดี้ก็ได้ถามต่อว่า รู้ไหมว่าทำไม เขาได้บอกไหม ซึ่งอาร์ตก็ตอบว่า เหมือนคนนั้นไปให้ความหวังเรื่องความรักกับผู้จัดการคนนี้อยู่ เราก็เสียใจมาก เพราะเป็นพี่ที่คอยปรึกษาตลอด
และเมื่อวู้ดดี้ถามเหตุผลที่ลาออก อาร์ตก็ตอบว่า ผมเป็นพระเอกละครเย็นก็จริง แต่ผมคิดว่าตัวเองมีของมากกว่านั้น ตอนนั้นผมเล่น บางระจัน แล้วผมก็ได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำมา ก็มีผู้จัด 3 เรื่องโทร.หาผม อาร์ตเล่นเรื่องนี้ไหม เล่นเรื่องนี้ให้พี่หน่อย ว่างครับ ตอนนี้ยังไม่มีละครเล่น เพราะมันมีช่วงระยะเวลาว่าง ปรากฏว่าผู้ใหญ่ไม่ให้เล่น ให้เล่นแต่ละครเย็น
ผมอยากโชว์ศักยภาพให้คนอื่นเห็น จับไปลงละครเย็น ทั้งที่บทมีแต่ดี ๆ ผมเลยหนีไปเล่นละครเย็นช่องอื่น พอช่องที่ติดสัญญาทราบจึงไปบอกอีกช่องว่าห้ามออนแอร์ แต่อาร์ตยืนยันจะให้ออนแอร์ และจะจ่ายค่าปรับเอง เป็นจำนวนเงินมากกว่า 3-4 ล้านบาท
แต่หลังจากนั้นได้ไปหาทางผู้ใหญ่ พร้อมไหว้ขอโทษ ซึ่งทางนั้นถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ผมก็ตอบว่า เพราะผมอยากดัง ผมอยู่ในวงการมา 7 ปี ไปถามผู้กำกับได้เลย ผมทำงานสายแค่ 3 วัน แล้วผมไปทำงานที่อื่นเพราะผมว่าง พี่ต้องรอให้พ่อแม่ผมป่วย ถึงจะยอมมอบบทดี ๆ ให้ผมเหรอ
สรุปแล้วพอตกลงเรื่องเงินเดือน หรือกำหนดละครที่จะเล่นต่อปี ทางผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถตอบตกลงได้อีก อาร์ตเลยเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา แต่คนอื่นก็เอาไปบอกว่าเราฉีกสัญญาอีก
ส่วนเรื่องของเพื่อนก็ได้คุยเรียบร้อยแล้ว 17 ปีที่ผ่านมาไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย จากนั้นวู้ดดี้ก็ได้ถามต่อว่า ได้เรียนรู้อะไรบ้างกับเรื่องราวที่ผ่านมา ซึ่งอาร์ตก็ตอบว่า จริง ๆ ที่ผ่านมามันดีมาก แค่คนที่เข้ามามันไม่ดี และตนก็เลือกที่จะเก็บแต่สิ่งดี ๆ ไว้
เป็นบทเรียนชีวิตในวงการบันเทิงที่หนักหนาจริง ๆ สำหรับอาร์ต ที่ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่โดนเพื่อนและคนที่ไว้ใจแทงข้างหลัง ทั้งยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ เพื่อโชว์ศักยภาพงานละคร จนสุดท้ายเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดก็ได้ทำอาชีพใหม่ในแบบที่ตนรัก ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ
กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่
