ข่าวกีฬาพรีเมียร์ลีกฟุตบอล

เปิดประวัติ “วาตารุ เอ็นโดะ” มิดฟิลด์แดนปลาดิบ ว่าที่แข้งใหม่ “ลิเวอร์พูล”

ส่องประวัติ วาตารุ เอ็นโดะ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น ว่าที่กองกลางคนใหม่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้

อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล ทำงานอย่างหนักในการหากองกลางคนใหม่ หลังต้องเสียทั้ง ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปให้กับทีมในซาอุดิอาระเบีย โดยที่พวกเขามีข่าวพัวพันกับทั้ง มอยเซส ไคเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย แต่กลายเป็นว่าทั้งสองคนตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ เชลซี แทน

ทำให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยังต้องหากองกลางตัวรัยคนใหม่เข้ามาเสริมทัพ

ก่อนที่ล่าสุด สื่อแบจะทุกสำนักได้รายงานว่า ลิเวอร์พูล บรรลุข้อตกลงกับ สตุ๊ตการ์ท ในการคว้า วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางชาวญี่ปุ่น มาร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 18 ล้านยูโร วันนี้ Thaiger จะขอนำเสนอประวัติการค้าแข้งของนักเตะรายนี้ ก่อนที่เขาจะกลายเป็น “หงส์แดง” ตัวใหม่ของทีมดังแห่งเมอร์ซี่ไซด์

เอ็นโดะ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพการค้าแข้งเมื่อปี 2010 กับสีเสื้อของ โชนัน เบลล์มาเร่ ที่ในตอนนั้นอยู่ใน เจลีก 2 และการค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้ตลอด 5 ปีทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักบนเวที เจลีก ญี่ปุ่น ด้วยการทำไปได้ทั้งหมด 23 ประตูจากการลงสนาม 158 เกมรวมทุกรายการ ก่อนที่เขาจะได้รับโอาสย้ายไปอยู่กับ อูราวะ เร้ด ไดมอนด์ส และกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้เมื่อปี 2017

และในปีต่อมา เอ็นโดะ ได้รับโอกาสไปค้าแข้งในลีกยุโรปครั้งแรก ด้วยการย้ายไปเล่นให้กับ แซงต์ ทรุยด็อง ทีมในลีกของเบลเยียมเมื่อปี 2018 ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยให้ไปอยู่กับ สตุ๊ตการ์ท ในสัญญายืมตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 โดยที่กองกลางแดนปลาดิบสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสีเสื้อของทัพม้าขาว จนสุดท้ายสตุ๊ตการ์ทตัดสินใจเซ็นสัญญาถาวรกับเขาเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 และเขาก็ยังค้าแข้งอยู่กับสตุ๊ตการ์ทนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ส่วนในนามทีมชาติ เอ็นโดะ ถูกเรียกติดทีมทัพซามูไรบลูส์ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในยุคของ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ในเกม EAFF Asian Cup เมื่อปี 2015 ก่อนที่เขาจะเป็นขาประจำที่ถูกเรียกติดทีมชาติ รวมไปถึงยังเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย และในปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์

การย้ายทีมในครั้งนี้ของ เอ็นโดะ ถือว่าเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่ของเขาในวัยที่เริ่มต้นเข้าสู่เลขสาม เพราะเวทีพรีเมียร์ลีกขึ้นชื่อว่าเป็นลีกดับฝัน ไม่แน่จริง ไม่เก่งจริง อยู่ไม่ได้ และเรามารอชมกันว่าเขาจะสามารถพาทัพหงส์แดงไปถึงฝั่งฝันในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่

กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button