ประวัติ ‘เตี้ย มช’ สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล สรุปคดีหายปริศนา ก่อนพบเป็นศพริมทาง
ย้อนประวัติไทม์ไลน์ “พี่เตี้ย” หรือ “เตี้ย มช.” สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ไอดอลขวัญใจ ม.เชียงใหม่ ก่อนศาลเริ่มพิพากษาคดีความอุ้มหายปริศนาล่าสุดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2566
เปิดประวัติ “เตี้ย มช.” เป็นสุนัขสายพันธุ์บีเกิ้ล มีเจ้าของคือ “นายสมศักดิ์ ไชยวงค์” อาศัยอยู่ในรั้้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ก่อนจะเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการได้เข้าร่วมกิจกรรม “วิ่งขึ้นดอย” ในประเพณีรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 พี่เตี้ย สุนัขวัย 8 ปี ระบุว่าได้หายตัวไปจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนที่จะถูกพบเป็นศพ ในป่าละเมาะข้างทาง ส่งผลให้มีการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต จนกระทั่งศาลในจังหวัดเชียงใหม่ได้เริ่มสืบพยานปากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของ เตี้ย มช. ล่าสุดอีกครั้ง ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 อัปเดตความคืบหน้าของ ผลการพิพากษาคดีความหายปริศนา “เตี้ย มช.” จากสำนักข่าว เชียงใหม่ CM108 ข่าวเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าศาลเชียงใหม่ ตัดสินผู้ต้องหาฆ่าเจ้าเตี้ย มช. ให้จำคุกจำเลย 6 เดือนในคดีทารุณกรรมสัตว์ ไม่รอลงอาญา
ทั้งนี้ ทีมข่าวสืบสวน Thaiger ได้รวบรวมประวัติและข้อมูลไทม์ไลน์เกี่ยวกับคดีความของ “เตี้ย มช.” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และทำไมการหายตัวไปของพี่เตี้ย มช. จึงเป็นกระแสโด่งดังจนเป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้
ย้อนไทม์ไลน์ คดีอุ้มหาย “เตี้ย มช. ก่อนศาลนัดพิพากษาล่าสุด
อ้างอิงข้อมูลไทม์ไลน์จากเฟสบุ๊ค เพจ เตี้ย มช. ระบุว่า”เตี้ย” หรือ “พี่เตี้ย มช.” สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งยังร่วมทำกิจกรรมร่วมกับน้อง ๆ นักศึกษาจนโด่งดังจากประเพณีวิ่งขึ้นดอย และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
กระทั่งมีการสร้างเฟสบุ๊คแฟนเพจ “เตี้ยสตอรี่” ในปี พ.ศ. 2558 (เมื่อ 8 ปี ก่อนหน้านี้) โดยจะเป็นการโพสต์อัปเดตเรื่องราวของพี่หมาขาสั้น (เตี้ย มช.) ก่อนจะย้ายมาตั้งต้นที่เฟสบุ๊คเพจ “เตี้ย มช.” ในปี พ.ศ. 2560 และก็อยู่คู่เป็นขวัญใจชาว ม.เชียงใหม่ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
เริ่มต้นเหตุการณ์ “พี่เตี้ย” หายตัวไป
– กระทั่งในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นครั้งสุดท้ายที่มีอัพเดทเรื่องราวชีวิตของเตี้ย ซึ่งทีมงานเจอเตี้ยวันสุดท้ายคือช่วงค่ำของวันนั้น
– วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ปีเดียวกันนั้น เตี้ยไม่มาในเวลาปกติ ก็มีการตระเวนหา แต่ทุกคนก็ยังคิดว่าน่าจะคลาดกัน เพราะเตี้ยอาจจะโบกรถไปกับคนอื่น
– วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ได้มีการเริ่มตามหาตั้งแต่เช้า ในทุกจุดที่เตี้ยจะไป ก็ยังไม่เจอ ทีมงานเริ่มผิดสังเกต และมั่นใจว่าเตี้ยหายไปแน่ ๆ แล้ว เพราะไม่มาในเวลากินข้าว 2 วันติดกัน จึงได้โพสต์แจ้งในเพจ เผื่อใครพบเจอ หรือใครพาเตี้ยไป รวมทั้งไปลงบันทึกประจำวัน
– จากนั้นใน วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ก็มีการตระเวนตามหากัน มีคนมาช่วยตามหาเตี้ยเยอะมาก ๆ แต่ก็ยังไร้วี่แวว มีคนส่งเบาะแสอะไรมา ทีมงานกระจายกันไปดูทุกจุด
แจ้งเบาะแส พบร่างไร้วิญญาณ พี่เตี้ย มช.
– วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ยังคงตามหากันต่อเนื่อง จนเย็นวันนั้น มีคนแจ้งมาว่าพบร่างน้องหมาคล้ายเตี้ย จึงขอให้ทีมงานไปตรวจสอบ สรุปว่าคือร่างไร้ลมหายใจนั้นเป็นพี่หมาขาสั้นที่เราตามหากันมาหลายวัน ส่งผลให้ทีมงานนำร่างของเตี้ยนำไปส่งชันสูตร รวมถึงไปลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมว่าเจอร่างแล้ว
– ในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ผลชันสูตรออก ในระหว่างนั้นทีมงานหาเบาะแส และเช็คกล้องวงจรปิด แต่ก็ใช้เวลา เนื่องจากไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด และมีการให้เบาะแสคลาดเคลื่อน เพราะในช่วงนั้น เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งทำให้คนที่ให้ข้อมูลสับสนวัน
– ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบข้อมูลเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์เกิดในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 จากนั้นทีมงานจึงย้อนกลับไปหาหลักฐานในวันที่ 3 จากที่ตอนแรกหาจากวันที่ 4 พฤษภาคม
– ในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ทีมงานไล่ดูกล้องวงจรปิด จนพบว่ามีคนพาเตี้ยนั่งรถออกไปจากบริเวณมอ และไม่มีการติดต่อให้ข้อมูลจากผู้ที่นำเตี้ยออกไปเลย
– เพจได้โพสต์คลิปดังกล่าวในเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เพื่อให้คนผู้นั้นติดต่อมา
– วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ผู้ที่อยู่ในคลิปติดต่อไปยังสถานีตำรวจ และแจ้งว่ารับเตี้ยออกไปเที่ยวในซอยพระนาง ด้านหน้ามอ และเตี้ยกระโดดลงรถ โดนล้อหลังมอเตอร์ไซด์ทับเสียชีวิต จึงนำร่างไปทิ้งในซอย และไม่กล้าแจ้งเพจ
การตั้งข้อหาคดีหายตัวปริศนา “เตี้ย”
– หลังจากนั้นได้มีการสืบสวน สอบสวน จนสามารถตั้งข้อหา และสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาให้มีการ “สั่งฟ้อง” ใน 2 ข้อหา คือ
1) ความผิดฐานกระทำการทารุณกรรมสัตว์
2) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่เกิดโควิด-19 ระบาด ทำให้คดีเกิดความล่าช้าไปมาก ๆ และจากการสืบสวน สอบสวนที่ใช้เวลากว่า 3 ปี
หมายเหตุ : ทั้งนี้ มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียวตามคลิปกล้องวงจรปิดในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ตั้งแต่ได้เห็นคลิป รวมถึงหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ ทีมงานไม่เคยเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่จำเลยให้การปฏิเสธตลอดเวลาที่ผ่านมา
#ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ไม่ควรถูกทารุณกรรม #เตี้ยมช
โดยระหว่างนี้ทาง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ (25 ก.ค. 66) ทางศาลนัดพิพากษาคดีเตี้ย มช. และจะได้บทสรุปในวันนี้ โดยระบุว่า
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง…วันที่ธงแห่งชัยของพี่จะโบกสะบัด
วันที่ศาลจะมีคำพิพากษาคนฆ่าพี่เตี้ยอย่างเหี้ยมโหด…
วันที่ความยุติธรรมจะมาถึงหลังจากรอคอยมาสามปีเต็ม…
วันที่คนทั้งประเทศที่รักพี่เตี้ยตั้งตารอคอยอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง…
25 กรกฎาคม 2566 เวลา 09:00 น. ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นอีกวันแห่งประวัติศาสตร์ ของตำนานแห่งรักและคิดถึงพี่…”เตี้ย มช.” แล้วพบกันครับ”
ล่าสุดในวันอังคารนี้ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ศาลเชียงใหม่ได้สรุปคดี ตัดสินผู้ต้องหาฆ่าเจ้าเตี้ย มช. ให้จำคุกจำเลย 6 เดือนในคดีทารุณกรรมสัตว์ ไม่รอลงอาญา