การเงินเศรษฐกิจ

เงินผู้สูงอายุเดือนสิงหาคม 2566 โอนเข้าวันไหน เช็กเงื่อนไขรับสิทธิที่นี่

อัปเดตความคืบหน้าจากกรมบัญชีกลาง เงินผู้สูงอายุเดือนสิงหาคม 2566 เงินคนชราเข้า 3,000 บาทจริงหรือไม่ โอนเข้าวันไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง เช็กเลยที่นี่

ความคืบหน้าล่าสุด เงินผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเงินคนแก่ ที่รัฐบาลเปิดให้ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนสิทธิเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่าครองชีพในแต่ละเดือน ซึ่งในปี 2566 มีการจ่ายเงินมาถึงเดือนกรกฎาคมแล้วเป็นที่เรียบร้อย

Advertisements

โดยปกติแล้วเงินผู้สูงอายุ ภาครัฐจะโอนเงินผ่านธนาคารที่ผู้สูงอายุแจ้งมา ทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่ถ้าหากวันที่ 10 ของเดือนใด ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะเลื่อนเวลาจ่ายเงินเป็นก่อนวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ดังนั้น อาจจะได้รับเงินไม่ตรงวันที่ 10 ในแต่ละเดือน โดยเงินผู้สูงอายุเดือนสิงหาคม 2566 เงินเข้าในวันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เงื่อนไขการรับสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยมีวิธีการคำนวณอายุ เช่น ลงทะเบียนของปี 2565 ต้องเป็นผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2504 ส่วนผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎร ระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น ๆ

3. กรณีที่ผู้สูงอายุมีบุตรทำงานในหน่วยงานรัฐ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังสามารถรับเบี้ยชีพผู้สูงอายุได้ด้วย

Advertisements

4. กรณีที่ผู้สูงอายุได้รับเงินบำนาญพิเศษตลอดชีวิตแทนจากการที่บุตรปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศจนร่างกายพิการ ทุพลภาพ หรือเสียชีวิต ยังสามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ด้วย

5. กรณีที่ผู้สูงอายุได้รับบัตรสวัสดิการคนจนจากรัฐ ยังสามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ด้วย

อัตราการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ จ่ายเท่าไหร่บ้าง

เงินกลุ่มเปราะบางสำหรับผู้สูงอายุ สามารถแบ่งช่วงอายุสำหรับรับเงินทั้งหมด 4 ช่วง ได้รับจำนวนเงิน 600-1,000 บาท ประกอบด้วย

1. อายุ 60-69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท

2. อายุ 70-79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท

3. อายุ 80-89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท

4. อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท

เบี้ยผู้สูงอายุ

วิธีการลงทะเบียนรับเงินผู้สูงอายุ

สำหรับใครที่ต้องการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาผู้สูงอายุสำหรับกลุ่มเปราะบาง ต้องเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่น ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร

โดยผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์ โดยเกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของปีนั้น ๆ สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีเดียวกัน และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งในปีนี้อายุครบ 60 ปีในเดือนตุลาคม 2566

สามารถยื่นลงทะเบียนได้ที่ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ เขตกรุงเทพมหานครฯ หรือพื้นที่ต่างจังหวัด ณ สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิรับเงินผู้สูงอายุ

สำหรับหลักฐานเพื่อลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะต้องเตรียมเอกสาร ประกอบด้วย

1. กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด
  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

2. กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม

  • หนังสือมอบอำนาจ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิเงินผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง

เช็กไทม์ไลน์ เงินผู้สูงอายุ 2566 เข้าวันไหนบ้าง

มกราคม 2566 : วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566

กุมภาพันธ์ 2566 : วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566

มีนาคม 2566 : วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566

เมษายน 2566 : วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566

พฤษภาคม 2566 : วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566

มิถุนายน 2566 : วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566

กรกฎาคม 2566 : วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566

สิงหาคม 2566 : วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566

กันยายน 2566 : วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566

ตุลาคม 2566 : วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566

พฤศจิกายน 2566 : วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566

ธันวาคม 2566 : วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566

เงินผู้สูงอายุ เข้าวันไหน

ในส่วนของข่าวลือที่เผยว่า เงินผู้สูงอายุเดือนสิงหาคม 2566 จำนวนเงิน 3,000 บาท ไม่เป็นความจริง เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น จึงไม่มีการจ่ายเงิน 3,000 บาทแต่อย่างใด เงินที่ได้รับยังเป็นจำนวนตามช่วงอายุ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ โทร. 02-642-4305

ขอบคุณข้อมูลจาก1

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button