โหวตนายก เดือด ! รวมวาทะ “ชาดา” อภิปราย ขอออกกฎหมายยิงคนหมิ่นสถาบันไม่ติดคุก
ชาดา ไทยเศรษฐ์ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายก่อนโหวตนายกวันนี้ ทำกระแสสังคมวิจารณืสนั่น ประชุมสภาก่อนโหวตเลือกนากยกรัฐมนตรีคนที่ 30 วันนี้ ลั่น 14 ล้านเสียงไม่ใช่เทวดา เป็นเสียงประชาชนจริงแต่ไม่ถึง 20% ขอออกกฏหมายยิงคนหมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก
กลายเป็นการไลฟ์สดประชุมสภาที่มีการถกกันเดือดตั้งแต่หัววัน ภายหลังจากที่วันนี้ (13 ก.ค.66) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลุกขึ้นอภิปรายที่รัฐสภา โดยประเด็นร้อนที่ทำเอากระแสสังคมกำลังวิจารณ์กันจำนวนมาก
นอกจากการประกาศจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย คือ ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมกับย้ำหนักแน่น “ถ้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ภูมิใจไทยพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน คัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เป็นประเด็นสืบเนื่องจากหัวข้อที่ ส.ส.จากพรรคซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นหัวหน้าพรรค ได้มีการร่ายยาวไปนั้น ในรายละเอียดนั้นมีอยู่หลายถ้อยคำที่ค่อนข้างจะโผงผางและรุนแรงจนถูกชาวเน็ตติดแฮชแท็กชื่อ #ชาดา ในระยะเสลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับการขุดประวัติและที่มาที่ไปของ ส.ส. ผู้แทนราษฎรรายนี้กันไม่หยุด
รวมประเด็ด ชาดา หล่นวาทะกรรมปกป้องสถาบัน
“ขอออกกฏหมายใหม่ ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก”
สำหรับประชาชนท่านใดที่พลาดการอภิปรายเมื่อช่วงเช้าของ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย อายุ 62 ปี เกิดในครอบครัวมุสลิมปาทานอพยพจากปากีสถานมาตั้งรกรากที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่รุ่นปู่ เราจึงขออนุญาตรวมวาทะกรรมแสดงจุดยืนคัดค้านการแก้กฏหมายอาญามาตรา 112 โดยมัดรวมไว้ให้ด้านล่างนี้แล้ว
- “ถ้าท่านอ้าง 14 ล้านเสียง หลายคนก็พูดกันถึง 25 ล้านเสียงที่ไม่ได้เลือก แต่ในมุมมองของผม ผมอยากจะฝากผู้ที่จะเป็นนายกหรือนายกรัฐมนตรีก็ตาม ท่านต้องเป็นายกของคน 60 กว่าล้านคน ท่านต้องเป็นายกของประเทศไทย ท่านต้องไม่ได้เป็นายกหรือเป็นรัฐบาลของพรรคใดพรรคหนึ่งอันนี้สำคัญที่สุดครับ 14 ล้านเสียงไม่ถึง 20% ท่านอย่านึกว่ามันมากมาย แต่ท่านอย่าหลงระเริงกับ 14 ล้านเสียง มันไม่ใช่เรื่องชี้ขาดของประเทศนี้ มันเป็นรื่องที่ทานต้องดูแลคนทุกคน ถ้าท่านจะอ้างอย่างนี้ก็ลำบากครับ”
- “เป็นโจรก็ยอมรับครับ เป็นโจรที่รักชาติ เป็นโจรที่รักดสถาบัน เป็นโจรที่ปกป้องบ้านเมืองและปกป้องสถาบันด้วยหัวใจ ด้วยเลือดเนื้อ”
- ผมเรียนครับ ว่าบ้านเรามีเจ้าของ สิ่งที่บรรพบุรุษ เราทำมามันมากมายเหลือเกิน เราอาศัยเขามาอยู่ มาขอเขาอยู่ ว่าสงครามมันวุ่นวาย เมื่อปี 2310 พม่ามันตี แต่อะไรครับท่าน เขาให้อยู่ อยู่ ๆ ไปครับ ลูกหลานจะไล่เจ้าของบ้าน มันอะไรกัน
กราบเรียนผู้อ่านทุกท่าน คาดว่ามาถึงบรรทัดนี้ อาจมีหลายความเห็นที่ไม่เชื่อว่านี่จะเป้น คำพูดทีี่หลุดออกมาจากปากของ ส.ส. นักการเมืองซึ่งเป็นตัสวแทนประชาชนตามระบอบรัฐสภาของไทย และไม่ใช่แค่นั้นเนื่องจากวาทะร้อนของ คนการเมืองลูกศิษย์ที่สำเร็จการศึกษามัธยมชั้นต้นจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอทัพทัน จ.อุทัยธานี ก่อนจะมาจบระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง ยังมีต่อ ดังนี้
- ถ้าไม่ด้วยพระเมตตาของระบบสถาันพระมหากษัตริย์ ท่านไม่ได้เลือกตั้งหรอกครับ ท่านไม่มีทางได้ 140 ที่นั่ง ผมพูดได้เลย ท่านลองไปพม่า อเมริกาช่วยอะไรได้ ทหารมันยิงดิ้นหมด
- วันนี้เหมือนกันครับ ประเทศนี้ถ้าไม่มีในหลวงไม่มีสถาบัน ลุงตู่ ลุงป้อม ไม่กลับบ้านง่าย ๆ หรอกครับ
มีแต่จะลากเอ็ม 16 มาเล่นกับพวกคุณ ซึ่งไปแล้วก็ถือว่าโชคดีครับท่าน” - ผมบอกท่านเลยนะครับ ผมถามว่า ใครก็รักพ่อรักแม่ตัวเอง ถ้าท่านปล่อยให้คนด่าแล้วไม่มีกฏหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิงกันระเบิดแน่เมืองนี้ ประเทศไทยนี่แหล่ะครับจะยิงกันxxxหายวายป่วงหมด
“ผมอาจจะขอเขาว่า ขอออกกฏหมายใหม่ ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก ดีไหม มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”
ข้อความบางส่วนจาก ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวในการประชุมสภาวันที่ 13 ก.ค.2566 ก่อนจะย้ำอีกครั้งว่า “วันนี้เราอยู่ได้เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์”.