ข่าวข่าวการเมืองเลือกตั้ง 66

“พิธา” เปิดใจครั้งแรก หลัง “กกต.” มีมติสั่งฟันพ้นสภาพ ส.ส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปิดใจครั้งแรก หลัง กกต. สั่งฟันปมหุ้นสื่อไอทีวี ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าที่นากยกฯ คนที่ 30 ของประเทศ ตอบชัดท่าทีปกติ ยันไม่ตกใจเพราะประเทศไทยยังมีทางเลือกอยู่ อะไรจะเกิดขึ้นไม่เสียใจเลย เสียดายแค่ไม่ได้รีบเข้าไปแก้ปัญหาให้ประชาชน ย้ำถ้ามันง่าย คงไม่เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องที่ยิ่งใหญ่ย่อมยากเสมอ

ประเทศไทยยังมีทางเลือกอยู่ ! ประโยคซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หล่นคำให้สัมภาษณ์ไว้กับ ภาคภูมิ พันธุ์สถิต ผู้ดำเนินรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางช่องไทยรัฐทีวี วันนี้ (12 ก.ค.66) ซึ่งเทปพูดคุยดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจาก คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมสมาชิกภาพ ส.ส.ของพิธานั้น สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3 ) ประกอบมาตรา 101 ( 6 ) หรือไม่

จากเหตุแคนดิเดตนายกฯ ก้าวไกล มีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวีจำกัดมหาชน จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

โดยประเด็นข้างต้น อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ล่าสุดของว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ ก็ยืนยันชัดเจนในรายการว่า ตนเองนั้นไม่ตกใจกับประเด็น กกต.วันนี้ เพราะเป็นเรื่องที่คาดหมายไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งคนจะเป็นผู้นำต้องเข้าใจว่าจะมีเหตุการณ์ที่คาดคิดบ้าง ไม่คาดคิดบ้าง

เรื่องนี้ “พิธา” แสดงความเห็นของตัวเองว่า ถ้าดูตามปกติในการเมืองไทยก็เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ของตนอาจจะทำลายสถิติที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากใช้เวลาพิจารณาคดีในเรื่องร้องเรียนที่คล้ายกันเกี่ยวกับปมถือหุ้นสื่อ 32 วัน เปรีบยเทียบกับของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ใช้เวลา 51 วัน , เคส ดอน ปรมัตถ์วินัย กกต.ใช้เวลา พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 386 วัน

ส่วนกรณีลักษณะต้องห้ามของ 4 รัฐมนตรีสมัยรัฐบาล คสช. “กกต.” ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 355 วัน โดยประเด็นนี้ หัวหน้าจากพรรคก้าวไกล ระบุ ถ้าสังเกตจะเห็นช่วงเวลาที่ กกต. ใช้พิจารณาคำร้องมีความแตกต่างกันมาก

“ผมไม่มีทางที่จะได้ประโยชน์ทางการเมือง ผ่านสื่อที่ปิดไปแล้วเมื่อ 17 ปี ที่ผ่านมา มีใครดูดีเบตผมผ่านไอทีวีบ้าง ไม่มี ผมเข้าใจนะเรื่องกฏหมายเป็นยังไง เพราะมีฎีกาอยู่เกี่ยวกับการพิจารณาคดีหุ้นสื่อย้อนหลังไป 60-70 คน ทีมกฏหมายผมอ่านดูหมด ผมรู้ว่าประเด็นพิจารณาคืออะไร แต่ในขระเดียวกันมันต้องเรียกสามัญสำนึก คืนความปกติสู่การเมืองบ้าง เพราะว่าเจตนารมณ์ของกฏหมายนี้ ๆ เนี่ย คือ ไม่ต้องการให้นักการเมืองเข้าสู่อำนาจโดยการใช้สื่อ”

“แต่สื่อที่ปิดไปแล้วเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมา ไม่มีแม้ประธาน ไม่มีแม้แต่รายได้จากสื่อและผมไม่มีทางที่ได้ประโยชน์อะไรนั้น ถ้าตอนนี้ทุกคนอยากเปิดไปดูช่อง ITV ก็ไม่มีใครเปิดดูได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย แต่ผมเป็นนักการเมืองก็พร้อมชี้แจง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีโอกาสที่ผมจะได้รู้ว่าประเด็นไหนที่เขาสงสัย” พิธา ระบุ

ข่าวพิธาแถลง

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งมีคำถามเกี่ยวกับไทม์ไลน์หรือช่วงเวลาว่า ได้ลองวิคราะห์หรือประเมินไว้หรือไม่ ถึงสาเหตุที่ทำให้ กกต. มีมติดังกล่าวออกมาและส่งศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ก่อนที่พรุ่งนี้เหลือเวลาอีกวันเดียวจะโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งตัวพิธาเองก็ตอบทันทีว่าก็คงเป็นเรื่องที่ตนเองสงสัยไปพร้อม ๆ กับพี่น้องประชาชนเช่นกัน

ช่วงท้าย ทางรายการมีการยิงคำถาม โดยเป็นการตั้งสมมติฐานกับทางแขกรัับเชิญ กรณีหากวันพรุ่งนี้โหวตเลือกนายกฯ ไม่ผ่าน เคยคิดถึงเรื่องนีไว้บ้างรึเปล่าและถ้าเกิดขึ้นแล้วจะทำยังไง

คำตอบที่ได้จาก นักการเมืองวัย 42 ปี ก็ยังคงตอบด้วยสีหน้าผ่อนคลายพร้อมกับแจกแจงประเด็นสำคัญในวันพรุ่งนี้ จากกรอบเวลาทั้งหมด 6 ชม. ที่จะมีการอภิปราย แบ่งเวลาเป็นอภิปราย ส.ส. 4 ชม. ส่วน ส.ว. 2 ชม. “นายพิธา” ย้ำชัดว่า การโหวตนายกที่จะมีขึ้นทั้งหมดจะอภิปรายเรื่องของคุณสมบัติคนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เท่านั้น ที่เหลือก็จะเป็นผลที่ออกมาจากการโหวตเลือกนากยกฯ ครั้งที่ 1 ดังนั้นคาดว่าทุกเรื่องจะพุ่งและเจาะมาที่ตนเพียงคนเดียว

“ทุกคำถามที่ท่านมี ผมพร้อมตอบ ทุกคำถามที่มีเกี่ยวข้องกับนโยบาย ผมพร้อมตอบ ทุกคำถามที่เกียวข้องกับการใช้งบประมาณแผ่นดิน วิสัยทัศน์ ผมในเรื่องต่าง ๆ การต่างประเทศ ในประเทศ สิ่งแวดล้อม พร้อมตอบทุกอย่าง” พิธา ตอบข้อสงสัยประเด็นโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ 13 ก.ค.66 ด้วยการยืนยันชัดเจนว่า ตัวเองนั้นพร้อมตอบทุกข้อซักถามและไม่กังวลใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้.

ขอบคุณคลิป : Live : เปิดใจ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หลัง กกต. มีมติส่งศาล รธน. | เปิดปากกับภาคภูมิ EP.215 | 12ก.ค.66 (@thairathonline)

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button