บันเทิง

‘ร็อคกี้ สุรบดินทร์’ เปิดใจ หลังถูกเพื่อนสนิทโกงเงินหมดตัว จนคิดอยากลาโลก

‘ร็อคกี้ สุรบดินทร์’ เปิดหมดเปลือก เล่าเหตุเคยตัดสินใจอยากลาโลก ถูกเพื่อนรักที่คบกันมา 30 ปีโกงเงินจนหมดตัว พร้อมเคลียร์ดราม่าปมทำชื่อเสียงตระกูลเสียหาย

ถือเป็นการเคลียร์หมดเปลือกทุกประเด็นเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวในชีวิตของนักแสดงหนุ่ม ‘ร็อคกี้ สุรบดินทร์’ ที่ล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ปมถูกเพื่อนรักที่คบมานานเกือบ 30 ปี โกงจนหมดตัว พร้อมเผยอีกว่าเจ้าตัวเคยตัดสินใจจะลาโลก แต่ยังมีหนึ่งสิ่งที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่

ณ ตอนนี้โดนโกงไปเท่าไหร่?

ร็อคกี้ : ผมขอไม่ลงเลขก็แล้วกันครับ เพราะมีคนที่บ้านผมอยู่ด้วย เอาเป็นว่าหลักล้าน และเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตผมด้วย

แล้วตอนนั้นคนที่เรียกว่าเพื่อนสามารถเอาเงินไปได้ยังไง?

ร็อคกี้ : คือผมขอย้อนเรื่องราว เดิมทีผมทำธุรกิจเกี่ยวกับโปรดักชันเฮ้าส์ ทำมาตั้งแต่ก่อนโควิด แล้วมันมีปัญหาช่วงโควิด พอมาทำละครมันก็ขาดทุน เราก็ต้องไปกู้เงินมาทำให้จบ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วมันมีปัญหาเกิด ถ่ายไปหยุดไปโลเคชั่นแคนเซิล มีคนติดโควิดก็สั่งหยุดงานทันที เราเลยคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันควรไปต่อมั้ย

ซึ่งระหว่างที่คิดเพื่อนคนนี้ก็นั่งอยู่ข้างเราตลอด ปรึกษามาตลอด เขาเป็นเพื่อนกับผมมา 30 ปี ผมก็ค้นหาหนทางทำมาหากินต่อ ซึ่งตอนนั้นเขาก็มีปัญหาเรื่องธุรกิจเขาเหมือนกัน เราก็ช่วยซัพพอร์ตเขาด้วย เพราะเขาเป็นเพื่อนที่รู้ทุกเรื่องของเรา แล้วเราก็เริ่มมีตัวเล็กเพราะยังไม่ขวบนึงเลย เราก็คิดว่าต้องพากันไปข้างหน้าให้ได้ ก็เลยเอาเงินก้อนแบ่งให้เขาไปก่อน ยืมไปหมุน ยืมไปเขาก็เอามาคืน

พอเป็นข่าวใหญ่ออกมาว่าแอมป์ถูกโกง หลายคนก็มองว่าร็อคกี้ ก็มีส่วนรู้เห็นกับการโกงเรื่องนี้?

ร็อคกี้ : คือบางคนจะคิดว่าผมโกงก็ไม่แปลกครับ เพราะผมกับเขาสนิทกันจริง ๆ อย่างที่เล่าให้ฟังหลังจากตอนนั้น ผมก็มาไลฟ์เปิดโทรศัพท์ขายของ เขาก็อยู่ข้าง ๆ มาช่วยทำ พอช่วงมีปัญหาเราก็ไปซัพพอร์ตเขาเพิ่มขึ้น แต่ก็บอกเขาว่าต้องเอากลับมาบ้างละนะ เพราะมีค่าลูกคลอด ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

วันดีคืนดีเราเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละนะ เพราะมีคน โทร. มาหาเราคนที่ผมก็ไม่รู้จัก ผมก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นวะ มาถามเราว่าเห็นเขามั้ย เจอเขามั้ย เขาก็บอกว่าเขาจัดการเอง เราก็บอกว่าอย่าให้มีปัญหาเดี๋ยวเราจะเสียเครดิต

รู้ตัวอีกทีว่าเขาโกงเราตอนไหน?

ร็อคกี้ : คือตอนเขาไม่อยู่แล้ว เป็นเพื่อนเรามาตั้งแต่เด็ก เราก็ไม่คิดว่าเขาจะโกง

แล้ว ณ จุดไหนที่เขาไม่จ่ายกลับ

ร็อคกี้ : คือช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ก็เริ่มไม่มีการจ่ายกลับละ แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาอะไร ก็เชื่อว่าเขายังพยายามอยู่

แล้วจุดไหนที่รู้ว่าเขาไป?

ร็อคกี้ : จริง ๆ เขาเคยปรึกษาผมเหมือนกันว่าเขามีครอบครัวมีแม่อยู่ต่างประเทศ เขาจะไปเอาเรื่องที่มาดีมั้ย ผมก็บอกว่าถ้าจะไปทำอย่างงั้นเราต้องชัดเจนนะ บอกเขาทุกคนนะที่เขามาตามไม่ใช่อยู่ดี ๆ มาหายไปเฉย ๆ

ค่าความเสียหายที่ตำรวจสรุปมา 300 ล้านบาท?

ร็อคกี้ : พี่เชื่อมั้ยผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

พอเรารู้เรื่องนี้จากข่าวแล้วเรารู้สึกยังไง?

ร็อคกี้ : ตอนแรกมีการคุยกัน มีคน โทร. หาผม ผมเหมือนคนบ้า ตัวเองมีปัญหาธุรกิจอยู่ โทรศัพท์มาก็อยากรับ แล้วเผื่อมีงาน เผื่อมีธุระหรืออะไร แต่ใจนึงก็ไม่กล้ารับเพราะกลัวจะไม่ใช่เรื่องของเรา เพื่อนก็ห่วง เห้ยเพื่อนเราไปทำไรจริงเปล่าวะ หรือแบบนี่เรื่องงานหรือเปล่าวะ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป

ผมรอดบ้ามาได้ก็บุญแล้ว 1-2 เดือนที่แล้ว จนเขาไปผมบอกเลยว่ามันเริ่มชัดเจนเมื่อปลายเดือนต้นเดือนที่ผ่านมา คือตอนแรกที่เพื่อนไป เขาไปเช็กว่าออกนอกประเทศไปหรือเปล่า ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่หรอก ตอนนั้นพยายามติดต่อเขาทุกอย่าง แฟนกับเขาก็ไปด้วยกัน แม่เขาก็อยู่ต่างประเทศ เชื่อว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ประเทศไทยแล้ว ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเหรอ ทำแบบนี้จริงเหรอ

บางกระแสเขาบอกว่า กี้รู้เห็นเป็นใจในบางอย่าง?

ร็อคกี้ : อันนี้ผมก็มารู้ทีหลัง จริง ๆ 80% คือเพื่อนผมด้วยที่เขาไปคุยแล้วเอาเงินมา คือใช้คอนเน็กชั่นของเรา คือมีน้องคนนึง โทร. มาหาผมแล้วร้องไห้เลย บอกว่าขอแจ้งความเพราะว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมก็ช็อก ว่ามันไปถึงไหนกันแล้ววะเรื่องนี้ ก็เลยบอกถ้าเพื่อนเราทำผิดก็จัดการเลยน้อง แต่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันลามปลามไปคนละ 10-20 ล้าน

บางคนครอบครัวเขามีปัญหา รวมไปถึงตัวเราด้วย นี่มันใช่คนที่เรารู้จักหรือโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ หรือเปล่าวะ ผมลำบากถึงขั้นว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวหมดชามแรกจะกินชามที่สองยังต้องคิดเลยเก็บตังค์ไว้ดีกว่ามั้ยวะ ตอนนั้นขึ้นรถก็คิดว่าเรามาถึงจุดนี้แล้วหรอวะ แล้วคนที่ทำเพื่อนกูนะเว้ย ยังไม่รวมเรื่องอื่นอีก

รู้สึกเสียใจหรือแค้นตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ เสียใจที่คบกันมาเป็นเพื่อน 30 ปี หรือแค้นที่คบมา 30 ปีมึงทำแบบนี้กับกูได้ไงวะ?

ร็อคกี้ : จนตอนนี้ผมยังหาคำตอบไม่ได้เลยพี่ เงินผมเสียดายแหละลำบากขนาดนี้แล้วตอนนี้ผมใช้คำนี้ได้เลย แต่แม่งเสียใจว่ะ นี่มันเพื่อนเรานะ แค้นใจมั้ยก็แค้นใจนะ ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกผมคืออะไร มันทำให้ผมนั่งอยู่ตรงมุม ๆ ในบ้านไปไหนไม่ได้ ไม่กล้ารับโทรศัพท์และคุยกับใคร ผมถึงไม่แปลกใจทำไมคนถึงคิดแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ที่เรื่องมันเริ่มชัดแล้ว 1-2 เดือน ผมคุยกับใครไม่ได้เลย ผมจะอ้วก

หนิง : คือหนิงกับน้องทำงานอยู่สถานีเดียวกันช่องเดียวกัน หนิงก็จะรู้จักน้องประมานนึง คือน้องเองก่อนที่จะมามีเรื่องหนัก ๆ เขาเองก็จะมีเรื่อง พยายามเข้มแข็งมาโดยตลอด และน้องก็เป็นคล้าย ๆ ซึมเศร้าเบา ๆ

ร็อคกี้ : คือผมก็ไม่รู้ว่าผมเองเป็นหรือเปล่านะครับ

หนิง : แต่ตัวเองพยายามจะเข้มแข็งตลอด จะพยายามเป็นคนเอ็นเตอร์เทนคนรอบข้าง แต่ก็มีเรื่องนี้เข้ามา

ร็อคกี้ โดนโกง

เราเสียใจที่โดนเพื่อนหลอก หรือ ที่เพื่อนหลอกแล้วมันกระทบกับนามสกุลของเรา?

ร็อคกี้ : คือผมรู้สึกทุกอย่างเลยครับ แล้วสิ่งที่ทำให้ผมเสียใจที่สุดมันไปไกลกว่านามสกุลและ สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด คือวันที่เรามีทำไมไม่ใช่วันที่เราดีวะ เราจะได้ดูแลเขาให้ดีกว่านี้ คือเขารู้ทุกอย่าง อยากให้ตัวเองมีความสุขเพราะเราจะได้ทำให้เขามีความสุข มันข้ามเรื่องนามสกุล หน้าตา ทุกอย่างไปหมด

ทุกวันนี้กี้น้องชายของเราโกรธมั้ย โอเคโกรธ โกรธที่เขาโกงเราและโกงไปด้วย และทำนามสกุลปนเปื้อนแต่เสียใจหนักที่สุดที่จะดูแลลูกคนแรกและครอบครัวเรา แต่ทำไมต้องมาแบ่งตรงนั้น?

ร็อคกี้ : ผมเคยคิดอยากจะลาโลกไปเลย มีหรือไม่มีเรามันดีกว่ากัน อย่างที่บอกเราเคยดูแลคนอื่น ทุกวันนี้เหมือนเราเป็นภาระคนอื่นไปหมดเลย มีเราก็ต้องสิ้นเปลือง หรือว่าให้คนอื่นต้องมาดูแลเรา ถ้าไม่มีเราแล้วมันจะเบากว่านี้มั้ย ลูกก็เป็นอีกอย่างนึงทำให้เราอยู่

เคยไปคุยกับหมอมั้ย?

ร็อคกี้ : ไม่เคย ถ้าเหตุผลตัวเองเลยนะ เพราะผมไม่อยากเสียตังค์

หนิง : ถ้าวันนี้พี่บอกว่าไปหาหมอ แล้วพี่ดูแลเรื่องเงินให้ไปมั้ย?

ร็อคกี้ : เพื่อนผมเคยบอกแบบนี้แล้ว แต่ผมบอกขอเวลาหน่อย คือตอนนี้ทุกอย่างมันสดมาก จนบางทีทุกอย่างมันตีอยู่ในหัวผมหมดเลย แต่ผมแค่รู้สึกว่าผมต้องไปหาหมอแล้วหรอ ขอลองฮีลด้วยตัวเองอีกหน่อยได้มั้ยวะ ที่ผมเป็นมันเป็นซึมเศร้าแล้วใช่มั้ย คือทุกอย่างมันตีกันอยู่เลยเรื่องที่จะไปพบหมอด้วย แต่คือทุกอย่างผมไม่ได้ห่วงตัวเอง แค่อยากเอาเวลาไปทำงานหาเงินดูแลที่บ้าน ปกติผมไม่ใช่คนใจบางร้องไห้แบบนี้เลยนะ

หนิง : ก่อนที่จะทำสิ่งนั้นได้ ก่อนที่จะห่วงคนอื่น แล้วประคองคนอื่นได้เราต้องแข็งแรงก่อน ไม่งั้นมันจะล้มทั้งหน้ากระดาน ทุกคนเกิดมาในชีวิตมีปัญหาหมด เพราะฉะนั้นต้องไปหาหมอก่อน

ตอนนั้นที่บอกว่าความรู้สึกมันต่ำสุด มันต่ำขนาดไหน

ร็อคกี้ : คือไม่ได้บอกว่าเดิมเราร่ำรวย แต่คือเราอยากกินอะไรได้กิน อยากเที่ยวอะไรได้เที่ยว แต่มันเป็นความรู้สึกอย่างที่บอกจะทำอะไรมันต้องคิดไปหมด มันกลัวไปหมดเลย ไม่ได้กลัวว่าเราจะเป็นอะไร แต่กลัวคนข้างหลังเราจะเป็นอะไร คือตัวผมเหมือนเป็นอนาคตแพลน คือวันนี้เกิดปัญหามีประตูต้องไปทางไหน แต่วันนี้เหมือนทุกประตูมันปิดใส่เราหมด เราไม่รู้จะต้องไปทางไหน หรือต้องไปขอความช่วยเหลือใคร ทำทุกอย่างยกมือไหว้พระว่าผมจะต้องทำยังไงดี

มาถึงจุดนึงใรชีวิตที่คิดว่าไม่ต้องอยู่บนโลกนี้ก็ได้ มันหนักขนาดนั้นเลยหรอ?

ร็อคกี้ : คือมันเกิดคำถามขึ้นว่าโลกใบนี้ถ้ามันมีเรากับไม่มีเราแบบไหนมันดีกว่ากันนะ มันมีคำตอบให้ตัวเองไปแล้วด้วย ว่าโลกนี้ไม่มีเราดีกว่า แต่พอหันไปเห็นลูกก็เลยเกิดคำถามกลับมาว่าหรือเปล่าวะ เลยตัดเรื่องนั้นทิ้งไปก่อน เราหาทางอื่น ๆ ก่อน อันนั้นค่อยเป็นชอยส์หลัง ๆ ละกัน ตัดมันไปก่อน

สิ่งที่ทำให้อยู่ต่อได้?

ร็อคกี้ : ส่วนหนึ่งก็คือลูกเลยครับ เพราะเขาค่อนข้างติดผม คือตอนนั้นที่มีปัญหาเรื่องธุรกิจแล้วมาเจอเรื่องนี้อีก คืออย่างที่บอกแทบจะสลับหน้าที่กันเลย

ชาวเน็ตบางส่วนถามว่าแล้วครอบครัว “สมบัติเจริญ” หละทำไมไม่ยื่นมือมาช่วย ลูกมีปัญหา?

ร็อคกี้ : อันนี้ผมตอบแบบไม่ได้ครอบครัวสมบัติเจริญหรืออะไรเลยนะ อันนี้เหมือนเป็นครอบครัวของคนทุกคน ปีนี้เราก็อายุ 40 แล้ว ไม่ใช่เวลาเกิดปัญหาอะไรแล้ววิ่งไปหาผู้ปกครองหรอกครับ เราแค่รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นผมยังไม่อยากให้ที่บ้านรู้เลย อะไรเพิ่มไปให้ พ่อ คนอื่น ๆ ในวัยสวดมนต์แล้วผมพูดตรง ๆ ตอนนี้คิดว่าเขาน่าจะรู้แล้ว

ร็อคกี้ โดนโกง

ร็อคกี้ เคลื่อนไหวล่าสุดร็อคกี้ สุรบดินทร์ เปิดใจ ร็อคกี้ สุรบดินทร์ เปิดใจ

ร็อคกี้ สุรบดินทร์ เปิดใจ

ร็อคกี้ โดนโกง

ร็อคกี้ เผยความในใจปมถูกเพื่อนสนิทโกง

ภาพจาก Facebook : ร๊อคกี้ เอฟวี่ติง

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button