จากกรณีที่มีหญิงแจ้งญาติ 5 ชีวิตหายตัวปริศนา และหวั่นว่าตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์นั้น ล่าสุดเจอแล้ว ใช้ชีวิตปกติ ไม่เหมือนถูกลักพาตัว
จากกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งตามญาติของเธอ 5 ชีวิตที่สูญหายปริศนา ประกอบด้วย นางอุษา อายุ 43 ปี, น.ส.ชนนิกานต์ หรือ น้องบีม อายุ 22 ปี, น.ส.ญาสุมินร์ หรือน้องรุ้ง อายุ 22 ปี (เพื่อน น.ส.ชนนิกานต์), ด.ช.พรพิพัฒน์ อายุ 13 ปี หรือน้องฟอร์ด, และ ด.ญ.ศิรประภา หรือน้องฟ้าใส อายุ 13 ปี หายตัวไปจากบ้านพัก พื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายลมกรด แสงสว่าง หรือ แบงก์ อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ แฟนหนุ่มของ น.ส.ชนนิกานต์ ขับรถมารับทั้ง 5 คนออกจากบ้านไป และไม่สามารถติดต่อได้อีกตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดเพจดาวแปดแฉกหลายงานความคืบหน้าว่า “นี้คือภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพบุคคล 5 คน หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยตามหาญาติของตัวเองโดยอ้างว่า ถูกลักพาตัวหายไป นานกว่า 2 เดือน จากพื้นที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างกลุ่มแฟนหนุ่มของ 1 ในผู้ที่หายตัวไปคือนายลมกรด หรือ แบงค์ เป็นคนก่อเหตุ และไม่สามารถติดต่อญาติได้
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบทำให้ทราบว่าบุคคลที่ญาติบอกว่า ติดต่อไม่ได้และนายลมกรด เป็นผู้ก่อเหตุนั้น ปรากฏภาพบุคคล 5 คน เข้าพักที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว 130 กรุงเทพฯ และออกจากแมนชั่นแห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 11.50 น. โดยทุกคนเดินปกติไม่เหมือนถูกลักพาตัวหรือการถูกกระทำอื่น ๆ
ความคืบหน้าล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้(30 มิ.ย.2566) ชุดสืบสวนหลายหน่วยงาน อยู่ระหว่างติดตามแกะรอยและหาเบาะแสเพิ่มเติมจากจุดที่พบบุคคลทั้ง 5 คน โดยคาดว่าวันนี้น่าจะพบบุคคลทั้ง 5 คน เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
จากการสืบสวนติดตามของตำรวจ พบเบาะแสนายลมกรด พร้อมบุคคล 5 คน เข้าพักที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว 130 กรุงเทพฯ และออกจากแมนชั่นแห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 11.50 น. จากภาพทุกคนเดินปกติไม่เหมือนถูกลักพาตัวหรือการถูกกระทำอื่น ๆ ต่อมาญาติของนางอุษา ได้รับการติดต่อจากอดีตภรรยาของนายลมกรด ซึ่งมีลูกด้วยกัน 1 คน ว่า กำลังพยายามติดต่อนายลมกรด เช่นกัน เพื่อให้มาจัดการเซ็นเอกสารเกี่ยวกับลูก
ขณะที่นางอุษา ได้โทรศัพท์มาหาพี่สาวคือ นางเพ็ญศรี ซึ่งกำลังเดินทางไปที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร โดยนางอุษา ได้พยายามบังคับให้นางเพ็ญศรี ไปถอนแจ้งความ โดยบอกว่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต และอีกว่าตนเอง ลูกและหลาน สบายดี
เมื่อนางเพ็ญศรีถามว่าเหตุใดไม่ติดต่อครอบครัว นางอุษาบอกว่า มันเก็บโทรศัพท์ และเมื่อถามว่าหลานสบายดีหรือไม่ ได้ยินเสียงหลานบอกว่าสบายดี หลังจากนั้นได้ยินเสียงทำนองว่า มันจะมากรุงเทพฯกัน ก่อนที่โทรศัพท์จะถูกตัดสายไป และไม่สามารถติดต่อนางอุษา ได้อีก
