บันเทิง

แถลงข่าว ‘เอส กันตพงศ์’ ฟื้นแล้ว เผยสาเหตุหัวใจหยุดเต้น-อาการล่าสุด

ข่าวดี! เอส กันตพงศ์ ฟื้นแล้ว หลังหยุดหายใจ 20 นาที หมอแถลงอาการล่าสุด กำลังทำกายภาพบำบัด พร้อมเปิดเผยสาเหตุที่เอสป่วย ด้านครอบครัวขอบคุณทุกคนที่ซัพอร์ต

คืบหน้าอาการป่วยพระเอกดัง เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ หลังหมดสติกลางเวทีดีเบตเมื่อเดือนก่อน ล่าสุดทีมแพทย์ชี้แจง เอสฟื้นแล้ว หลังพักรักษาตัวนานร่วมเดือน พร้อมเผยสาเหตุเป็นเพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรง มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ก่อนเผยวินาทีที่เอสฟื้น ด้านภรรยาสาว คิตตี้ คริสติน่า วิงเคลอร์ เล่าประโยคแรกที่เอสพูด เผยเจ้าตัวมีภาวะสับสนคิดว่ากำลังถ่ายละคร

Advertisements

ช่วงบ่ายวันนี้ (22 มิ.ย. 66) ตัวแทนคณะแพทย์จากสถาบันโรคหัวใจโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พร้อมด้วยครอบครัว ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงอาการป่วยล่าสุดของ เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์

สาเหตุและอาการป่วยของ เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์

แพทย์เผยว่า นับตั้งแต่ผู้ป่วยย้ายมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ทีมแพทย์ได้เข้ามาร่วมกันตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา พบสาเหตุความเป็นไปได้มากที่สุดของอาการเอส คือภาวะที่เรียกว่า กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน

ในกรณีของเอสเป็นขั้นรุนแรง การทำงานของหัวใจมีความผิดปกติและลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่าการเต้นของหัวใจผิดจังหวะขั้นรุนแรง เป็นสาเหตุทำให้หัวใจหยุดเต้น โดยหลังจากถูกย้ายมา ณ ตอนนั้น เอสได้ใส่เครื่องพยุงชีพและเครื่องช่วยหายใจ โดยตอนส่งตัวมาอยู่ในภาวะวิกฤต และได้เริ่มการรักษาโดยการให้ยา ซึ่งผู้ป่วยตอบสนองในระดับน่าพอใจและดีขึ้นในทุก ๆ วันของการรักษา

หลังเริ่มรักษาสามารถค่อย ๆ ลดการใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงชีพได้ ณ วันนี้การทำงานของหัวใจผู้ป่วย กลับมาใกล้เคียงปกติแล้ว แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อติดตามและประเมินต่อไป

ทั้งนี้ระบบการไหลเวียนโลหิตของเอส มีการหยุดทำงานระยะหนึ่ง ทำให้ไตและสมองมีความเสียหายไปด้วย วันนี้การทำงานของไตฟื้นกลับมาได้อย่างน่าพอใจ หยุดฟอกเลือดแล้ว สามารถปัสสาวะได้เอง ส่วนเรื่องสมองเริ่มฟื้นฟูภาวะรับรู้และดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องได้รับการดูแลรักษาเพิ่มเติมพร้อมทำกายภาพบำบัด โดยปัจจุบันได้ย้ายออกจากหอผู้ป่วยวิกฤตแล้ว

Advertisements

การฟื้นตัวของ เอส กันตพงศ์ หลังไม่หายใจนาน 20 นาที

สำหรับคำถามเรื่องระยะในการพักฟื้น ทางแพทย์แจ้งว่า อาการคนไข้ในอนาคตจะยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของคนไข้ ซึ่งจะแตกต่างกันไป ในตอนนี้คนไข้ตื่น มีภาวะรับรู้ และสามารถสื่อสารง่าย ๆ ได้

ส่วนประเด็นการหมดสติของเอส แพทย์อ้างอิงจากประวัติและประเมิน คาดว่าอย่างน้อยยี่สิบนาทีขึ้นไป โดยสาเหตุที่เป็นไปได้ที่สุด เกิดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง และหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทำให้ล้มลงไปกลางงานแถลงข่าว

ด้านประวัติการเป็นโรคหัวใจแพทย์เผยว่าไม่มี โดยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันเป็นโรคที่พบได้ในทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ทุกช่วงอายุเจอได้หมด

ส่วนภาวะเครียดหรือการทำงานเยอะ แพทย์แจ้งว่าจะบอกว่าไม่เกี่ยวไม่ได้ แน่นอนว่าการทำงานหนักและความเครียด ทำให้สุขภาพโดยรวมไม่ได้ดีเท่าคนที่พักผ่อนเพียงพอ ส่วนเรื่องอากาศร้อนหากคนไข้เครียดอาจมีผล แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก

โดยรวมไม่มีภาวะวิกฤตใด ๆ ในตัวคนไข้ แต่อวัยวะสำคัญอย่าง ไต หัวใจ สมอง ยังต้องประเมินดูแลอย่างใกล้ชิด ตอนนี้พ้นวิกฤตและสามารถรับรู้ได้

ด้านเอ ศุภชัย เผยว่า ตอนไปเยี่ยมเขาดีใจ ซึ่งแพทย์เสริมว่ายังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู โดยตอนนี้คนไข้กำลัง recover ต้องดูว่าไปสุดที่ตรงไหน ไม่สามารถทำนายอนาคตได้

สำหรับแนวทางการรักษาหลักคือการกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงฟังก์ชั่นทั้งหมดที่มีปัญหาช่วงหัวใจหยุดเต้นไป ส่วนผลกระทบเรื่องความจำ แพทย์แจ้งว่าความจำเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ประเมินสมองอยู่แล้ว โดยตอนนี้เน้นการประเมินวันต่อวัน

เอส กันตพงศ์ ฟื้นตัวแล้วพูดอะไรเป็นสิ่งแรก

วินาทีที่รู้สึกตัว เอสพูดอะไรเป็นสิ่งแรก คริสติน่ากล่าวว่า “ไม่ใช่ประโยคที่ชัดเจน เขาค่อนข้างสับสน ดูเหมือนเขายังคิดว่าตัวเองยังทำงานอยู่ คล้ายว่าเขาเข้าใจผิดว่าตัวเองกำลังถ่ายละคร และถามว่าซีนต่อไปคืออะไร” โดยคุณหมอเสริมว่า ตอนฟื้นเอสอยู่ในภาวะสับสน ซึ่งเรื่องเป็นปกติ

ด้านคริสติน่าระบุว่า “มันคือปฏิหาริย์ เพราะคนส่วนใหญ่ที่หมดสติไปนานขนาดนี้ พวกเขาอาจไม่ได้กลับมาถึงขั้นนี้ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ดีมากแล้ว”

สำหรับลูกสาว คริสติน่าเล่าวว่าน้องดีใจมากที่ได้เจอพ่อ แต่ค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับน้องที่ต้องทำความเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทำสิ่งต่าง ๆ แบบปกติที่เล่นกันไม่ได้ ซึ่งปกติเอสจะเล่นและวิ่งกับลูกเสมอ โดยเราหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นอย่างนั้นได้อีกครั้ง

ด้านคริสติน่า ประโยคแรกที่เธอพูดกับสามีคือ “ที่รักพวกเราอยู่นี่ พวกเรายู่ที่นี่กับเธอ อย่ากังวลเลย” พร้อมเผยว่า ในตอนนั้นเอสยังจำไม่ได้และไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ตอนนี้เอสกลับมาจำได้แล้ว

ภรรยาและครอบครัวเอส ขอบคุณแรงซัพพอร์ตจากแฟนคลับ

สำหรับคริสติน่าสิ่งที่ทำให้เธออดทนกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เธอเผยว่า “ฉันคิดกับตัวเองว่า ฉันแตกสลายตอนนี้ไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่เพื่อลูกสาว นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดของฉัน ฉันเลยไม่ได้แสดงด้านอ่อนแอต่อหน้าเธอ นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันพยายามไม่ร้องไห้ และบอกกับลูกว่าต้องเข้มแข็งเพื่อพ่อนะ และพยายามอธิบายกับลูกอย่างดีที่สุด”

สำหรับภาพที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทางคุณแม่ของเอสเผยว่า เป็นภาพหลังการทำบุญสังฆทานและมีการถ่ายรูป ไม่ทราบว่าจะมีการโพสต์ภาพ ส่วนเรื่องการโพสต์ภาพปัจจุบันของเอส ทางภรรยาบอกว่าขอเวลาอีกสักระยะ

ด้านหมอเผยว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการฟื้นฟูร่างกายของเอส ทุกครั้งที่เริ่มการรักษาแพทย์ยังคงคาดหวังว่าคนไข้จะกลับมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้คุณแม่ได้กล่าวขอบคุณโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงช่อง 7 ที่ดูแลตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตลอดจนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้

ส่วนคริสติน่ากล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตเราอย่างดี ขอบคุณที่เข้าใจว่าบางครั้งพวกเราก็ต้องการเวลา เพราะความเหนื่อยล้าจากการดูแลเอสตลอดเวลา ขอโทษที่บางครั้งเราไม่สามารถอัปเดตได้อย่างทันท่วงที แต่เราพยายามอย่างดีที่สุด และพยายามจะแชร์มาที่สุดเท่าที่ทำได้ พวกเราเองก็ต้องดูแลปกป้องสามีด้วย เพราะนี่เป็นเรื่องเซนซิทีพ ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตกัน และหวังว่าเอสจะกลับมาเหมือนเดิม กลับมาทำงาน เป็นสามีและพ่อได้เหมือนเดิม แบบแอปปี้เอนดิ้ง”

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button