บุกรวบ “เกาหลีเทา” เอี่ยวเว็บพนันหนีเข้าไทย เงินหมุนเวียนกว่า 163 ล้าน
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุม เกาหลีเทา 4 โอปป้า Overstay ผู้ต้องหารายสำคัญ มีคดีติดตัวแอบหนีเข้าไทย พบประวัติเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 163 ล้านบาท ก่อนคุมตัวดำเนินคดี
วันที่ 19 มิ.ย.2566 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Bureau) ได้แถลงผลจับกุม 3 ผู้ต้องหาสำคัญ ชาวเกาหลีใต้ โดยรายแรก กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (บก.ตม.3) จับกุม นายคิม (นามสมมติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 35 ปี ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) จำนวน 1,582 วัน
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนปราบปราม ตรวจสอบคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบและได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ ตม. จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายคิม เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2561 ได้รับการตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 ครบกำหนดอนุญาต 31 ม.ค.2562 ซึ่งอยู่เกินกำหนดอนุญาตแล้ว 1,582 วัน
จากการตรวจสอบข้อมูล ยังพบว่า นายคิม เป็นผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ขององค์กรตำรวจสากล (INTERPOL) ที่สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ต้องการตัว ในข้อหาร่วมกับผู้สมรู้ร่วมคิด จัดให้มี การเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียน 5,919,442,923 วอน (163 ล้านบาท) ซึ่งสำหรับทางสาธารณรัฐเกาหลีนั้น เป็นความผิดตามกฎหมายด้านการส่งเสริมกีฬา ที่วางโทษไว้เป็นโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 70 ล้านวอน จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกราย บก.ตม.4 ร่วมกับ บก.สส.สตม. จับกุม นายมุน (นามสมมติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 48 ปี ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ โอเวอร์สเตย์ สืบเนื่องจาก บก.ตม.4 ได้ดำเนินการตามนโยบายของ สตม. ในการระดมจับกุมชาวต่างชาติ ที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า นายมุน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นผู้ต้องหาตามหมายแดงที่สาธารณรัฐเกาหลีต้องการตัวในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน จึงทำการตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. ทราบว่า นายมุน ได้ยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ประเภทภรรยาไทย ที่ ตม.จว.บุรีรัมย์ โดยได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 18 พ.ค.66 ซึ่งอยู่เกินกำหนดอนุญาตแล้ว
จากการสืบสวนทราบว่า ปัจจุบัน นายมุน ย้ายมาพักอาศัยที่ย่าน ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนพบตัวนายมุน และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย นายมุน มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายในประเทศเกาหลีใต้ ว่าตนเองจะได้รับมรดกแต่ต้องจ่ายเงินให้ศาลก่อน แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ยืมสำหรับใช้ต่อสู้คดีจำนวน 66 ล้านวอน และโทรหลอกลวงผู้เสียหายขอยืมบัตรเครดิตไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี จำนวน 17 ล้านวอน รวมมูลค่าความเสียหาย 83 ล้านวอน (2.2 ล้านบาท)
อีกคดี บก.สส.สตม. จับกุม นายนัม (นามสมมติ) อายุ 37 ปี และ นายจัง (นามสมมติ) อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
พฤติการณ์กล่าวคือ สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี ได้ประสานมายัง ป.ป.ส. และ บก.สส.สตม. ขอความร่วมมือ ให้สืบสวนติดตามตัว นายนัม และนายจัง ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐเกาหลี กระทำความผิดฐานลักลอบนำเข้ายาเสพติด หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย กลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐเกาหลี
โดยมีพฤติกรรมกระทำผิด คือ เมื่อประมาณต้นเดือน มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ศุลกากรอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี ตรวจพัสดุ EMS พบยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 172.18 กรัมมูลค่า 17,218,000 วอน (ประมาณ 460,000 บาท) จึงนำส่งสำนักงานอัยการสูงสุดสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อดำเนินคดี จากนั้นขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ 3 คน
จากการสอบสวนพบว่า ผู้จัดหายาเสพติดดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยคือ นายนัม และ นายจัง และชื่อที่จ่าหน้าบนพัสดุดังกล่าวคือ นายจัง สำนักงานอัยการสูงสุด จึงขอหมายจับบุคคลทั้งสอง บก.สส.สตม. จึงได้สืบค้นข้อมูลในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่านายนัม เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ก.พ.66 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.ผ.90 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 12 พ.ค.66 ส่วนนายจังเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.65 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราช อาณาจักรถึงวันที่ 17 ก.ย.65
ปัจจุบันทั้งสองคน อยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว (OVERSTAY) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้สืบสวนติดตามตัว กระทั่งทราบว่า ทั้งสองคนเข้าพักอาศัยในย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง กรุงเทพฯ จึงได้ไปประสานขอเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ นายนัม และนายจัง และได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่าการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้แจ้งข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พงส.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย.
ภาพและข้อมูล : ภาพ @สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง