ข่าวข่าวการเมือง

‘ประยุทธ์’ ย้ำรัฐบาลรักษาการจะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบกฎหมายให้ดีที่สุด

ประยุทธ์ ย้ำ รัฐบาลรักษาการ จะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบกฎหมายให้ดีที่สุด กำชับส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบที่ได้รับอนุมัติให้ได้ตามเป้า

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดเงิน ตลาดทุนในประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีความผันผวนจากผลกระทบของภาวะตลาดต่างประเทศ ประกอบกับในประเทศก็อยู่ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

Advertisements

นายกรัฐมนตรีมองว่าความผันผวนในตลาดเงิน ตลาดทุนในระยะนี้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น อยากให้นักลงทุนมองประเทศไทยจากศักยภาพที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง มีภูมิประเทศที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อผลิตสินค้าส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน และทั่วโลก ขณะที่สำนักงานบีโอไอ สำนักงานอีอีซี ก็มีมาตรการส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนที่จูงใจอย่างมาก

“แม้ระยะสั้นตลาดเงิน ตลาดทุนจะเกิดความผันผวนบ้าง แต่นายกรัฐมนตรียังมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจริงอย่างการท่องเที่ยวตอนนี้ก็ฟื้นตัวดีมาก การลงทุนเอกชนเองมาตรการส่งเสริมต่างๆ จากทั้งบีโอไอและอีอีซีก็พร้อม เดินหน้าลงทุนได้ทันทีไม่ต้องรอว่าจะเป็นรัฐบาลไหน ซึ่งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศกำลังบีบให้นักลงทุนหาพื้นที่ลงทุนใหม่ๆ และไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางที่นักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจเลือกลงทุน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่ารัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันจะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมายให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการดำเนินการเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นของทั้งประชาชนและนักลงทุน โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับส่วนราชการ หน่วยรับงบประมาณทุกแห่งให้เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2566 ที่ได้รับอนุมัติไปแล้ว ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เฉลี่ยร้อยละ 93 โดยสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางก็ได้มีการติดตามการเบิกจ่ายอย่างใกล้ชิด ให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรการเร่งรัดที่เคยผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเคร่งครัด

รายงานของกรมบัญชีกลางระบุว่า ณ วันที่ 12 พ.ค. 66 งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ส่วนราชการและหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ได้เบิกจ่ายรวมแล้ว 1.96 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อย 61.62 และเมื่อรวมกับเงินกันไว้เหลื่อมปีด้วย การเบิกจ่ายโดยรวมอยู่ที่ 2.08 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 61.63 ของวงเงินทั้งหมด 3.37 ล้านล้านบาท (เงินกันไว้เหลื่อมปีสำหรับเบิกจ่ายในปีงบฯ 66 มีทั้งสิ้น 1.9 แสนล้านบาท)

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button