“พิธา” สวน “วรงค์” อย่าให้ใครผูกขาดความจงรักภักดี ทำดีเบตแตก
ดีเบตเลือกตั้ง 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล ปราศรัยโต้ หมอวรงค์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างชาติ ไม่ต้องให้ใครมาผูกขาด ความจงรักภักดีในประเทศไทย
วันที่ 10 พ.ค.66 เกาะติดโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 โดยล่าสุดในส่วนความเคลื่อนไหวของศึกปราศัยเวทีดีเบตโชว์วิศัยทัศน์ตลอดจนนโยบายที่ชั่วโมงนี้ กระแสดีเบตของ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ หมอวรงค์ หรือ “วรงค์ เดชกิจวิกรม”
ที่ล่าสุด สองหัวหน้าและแคนดิเดตของ 2 ขั้วกลุ่มการเมืองต้องมาเผชิญหน้ากันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในเวทีโต้วาทีของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 พ.ค.) โดยงานนี้ การแลกหมัดนโยบายความคิดซึ่งถูกจัดขึ้น ณ สยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าย่านหรูหรา ใจกลางเมืองหลวงบ้านเรา ก็กลายมาเป็นวิวาทะร้อน สังคมประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง พากันกรูเข้ามาถล่มคววามคิดเห็นกันชนิดที่เรียกว่า “ประชาธิปไตยเบ่งบาน” บนเทรนด์ทวิตเตอร์ แฮชแท็ก #เลือกตั้ง66 #พรรคก้าวไกล #ดีเบต พุ่งสลับกันเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์และส่งต่อกันล้นหลาม
“ผมคิดว่ามีประเด็นที่เราต้องตระหนักนะครับ เราต้องยอมรับว่าวันนี้การเมืองสร้างความขัดแย้ง สร้างความแตกแยกในสังคม อดีตที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่าง ๆ ก็มีความขัดแย้ง แต่เป็นความขัดแย้งที่ไม่รุนแรง แต่วันนี้ผมเข้าใจว่าเจ้าของบริษัที่ถามเนื่องจากว่า พรรคการเมืองบางพรรคมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง
“และพรรคการเมืองบางพรรค มีพฤติกรรมยกเลิกมาตรา 112 นำไปสู่ความรุนแรงของสังคมไทยครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้บริหารเองก็ไม่ต้องการที่จะดึงความขัดแย้งเข้ามาสู่ในองค์กร และผมก็เข้าใจดีว่าสังคมไทยส่วนใหญ่ ก็ยังต้องการให้สังคมไทยส่วนใหญ่ดำรงอยู่ในสภาพ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขครับ”
“ดังนั้นจึงไม่แปลกนะครับ ที่ว่าพวกบริษัทที่จะต้องถาม เพราะเขาเกรงว่าความขัดแย้งจะเข้ามาสู่บริษัทของเขาครับ ขอบคุณครับ” ข้อความในเนื้อหาปราศรัยข้างบนของ หมอวรงค์ ซึ่งจับไมโครโฟนเวทีดีเบตช่องเจ็ดสีลุกจากเก้าอี้มาเปิดประเด็นถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ทางหัวหน้าพรรคไทยสร้างชาติ กล่าวอ้างว่า มีพฤติกรรมสร้างความขัดแย้ง ล้มล้างการปกครอง
ฟัง พิธา สวนความคิดเห็นต่างจนขึ้นเทรนด์
“ต้องขอขอบคุณหมอวรงค์อีกครั้งนะครับ ที่ช่วยหาเสียงให้กับพรรคอีกแล้ว” ประโยคแรกหลังจาก ทิม พิธา หยิบไมค์ขึ้นมาปราศรัยต่อจากหัวหน้าพรรคไทยสร้างชาติที่เพิ่งแสดงจุดยืนในการชิงชัยเกมการเมืองการปครองเที่ยวล่าสุด
ทั้งนี้ ในส่วนของเนื้อหาที่แม้เวทีแสดงความเห็นต่างทางการเมืองของสถานีข่าวยักษ์ใหญ่จะเก็บฉากไปแล้ว ทว่าวาทะของหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่กระแสนิยมกำลังพุ่งสูง ก็กำลังถูกรีทวีต ตลอดจนหยิบยกขึ้นมาตั้งประเด็นต่อยอด ในแต่ละมุมมอง ของหัวข้อการเมือง โดยเฉพาะกับเรื่องของ “ความจงรักภักดี” และคำว่า “ชาติ” “ไม่ต้องให้ใครมาผูกขาด ความจงรักภักดีในประเทศไทย”
“เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างสังคมที่สามารถจะทำให้ความคิดเห็นต่างทางการเมืองสามารถที่จะพูดคุยกันได้ โดยที่ไม่ได้บอกว่าเขาล้มล้างการปกครอง โดยที่เขาไม่ได้บอกว่า ต้องการที่จะเปลี่ยนประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นมนุษย์ เป็นสหพันธรัฐ
“แต่การที่เราสามารถที่จะมีโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะในระบบรัฐสภา อันนี้คือเป็นสิ่งที่เราควรจะสร้างให้เกิดขึ้นในสังคมไทย แล้วไม่ต้องให้ใครมาผูกขาดเรื่องความคิดประชาธิปไตย ไม่ต้องให้ใครมาผูกขาดความจงรักภักดีในประเทศไทย แล้วก็ไม่ต้องผูกขาดนิยามของคำว่าชาติด้วย เพราะว่า ชาติ คือ ประชาชนที่มีความหลากหลายครับ”
“สุดท้ายนี้นะครับ สุดท้ายนี้ ผมอาจไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งที่บางคนพูด แต่ผมเห็นด้วยว่า เขามีเสรีภาพที่จะพูดครับ ขอบคุณมากครับ” พิธา กล่าวบนเวทีปราศรัย
ทั้งนี้ ภายหลังกระแสดีเบตระหว่าง พิธา VS หมอวรงค์ ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันต่อเนื่องจำนวนมาก โดยจากหลักฐานคลิปที่ถูกตัดเป็นวิดิโอสั้น ๆ แล้วนำมาเผยแพร่ต่อในโลกโซลชียลนั้น จะได้ยินเสียงโห่ร้องชอบใจการดีเบตนี้สนั่นกรุง ชนิดที่ต้องยอมรับ การจัดโชว์วิศัยทัศน์บรรดาพรรคการเมืองหนดังกล่าวได้ใจประชาชนอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ช่วงเวลาที่กำลังเป็นโค้งสุดท้ายของการชิงชัยความได้เปรียบคะแนนความนิยม การหาเสียงต่อหน้าพี่น้องประชาน “ก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้ง” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้.
( นาทีปราศรัย พิธา vs หมอวรงค์ เริ่มช่วงประมาณนาที 02:25 น.)
ขอบคุณคลิป : Youtube @Ch7HD
- เคส พิธา ถือหุ้น ITV ส.ส. ภูมิใจไทย หวั่นซ้ำรอยธนาธร
- พิธา ตอบหมดเปลือกสถานะหัวใจ
- หมอวรงค์ ลั่นพา ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กลับไทยมาติดคุก