โหนกระแส คดีแอมวางยา ไทม์ไลน์วงแชร์มรณะทำอึ้งหนัก ! ปมดับ 3 ศพ
โหนกระแสวันนี้ คดีแอม สรารัตน์ วางยาไซยาไนด์ วงแชร์มรณะเสียชีวิตสุดสลด ดับห่างกัน 1 วัน ถัดมาอีกสามเดือน ครูอ๊อด คนในวงดับเพิ่ม สภาพศพเหยื่อ มือ 2 ข้างเกร็ง กำแน่น ปากมีน้ำลายออกเป็นฟอง ลักษณะน้ำไหลข้างแก้ม และ เล็บดำ คล้ายศพ ก้อย ท้าวแชร์คนกาญจนบุรีที่สิ้นลมจนขยายผล เชื่อมโยงกลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดเหี้ยมโหดในไทย
คดีแอม สรารัตน์ วางยาไซยาไนด์เหยื่อหลายรายจนตำรวจกำลังเร่งาสางปมมรณะกันอย่างเร่งด่วน ขณะที่รายการโหนกระแสวันนี้ 27 เมษายน 2566 ยังคงตามติดคดีนี้เป็นวันที่ 3 โดยพิธีกร “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย พาคลี่ปริศนาใหม่ไทม์ไลน์ วงแชร์มรณะของนางสรารัตน์ หรือ “แอม” ที่พบพิรุธลูกแชร์ทยอยล้มตาย ในช่วงเวลาไล่เรี่ยกัน โดยไม่ถึง 4 เดือน ลูกแชร์เสียชีวิต ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการตายเกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน 2 จาก 3 ราย
เปิดพิรุธ วงแชร์มรณะ แอม ไซยาไนด์ ไม่ถึง 4 เดือนดับไป 3 ศพ
ในรายการเปิดเผยข้อมูลแชร์วงนี้ไม่มีใครรู้จักใคร แต่จะมี “แอม เป็นคนกลาง” โดยความไม่ชอบมาพากลเริ่มจากสองศพแรก คือ น.ส.รสจินทร์ หรือ “น้อย” กับ ร.ต.อ. หญิงกานดา หรือ “ผู้กองนุ้ย”ซึ่งในโหนกระแสมีการระบุไทม์ไลน์ วันที่เสียชีวิตของทั้งคู่นั้นตรงกัน คือ วันที่ 10 สิงหาคม 2565
สภาพศพ “นุ้ย” ร้อยตำรวจเอกหญิงเคราาะห์ร้าย ซึ่งต่อมามีการชี้แจงล่าสุดจากทีมงานมูลนิธิวินวิน ข้อมูลเบื้องลึก ผู้กองนุ้ยเสียวันที่ 9 ส.ค.65 เวลาประมาณห้าทุ่ม ก่อนตายผู้กองนุ้ยไปเจอแอม กระทั่งวันรุ่งขึ้นก็พบว่าสิ้นลมลง
ขณะที่ศพสาม ซึ่งเป็นลูกแชร์ของแอม น.ส.ผุสดี หรือ “ครูอ๊อด” อาจารย์หญิงอายุ 39 ปี ซึ่งสาเหตุการตาย แพทย์ ระบุว่า เกิดจากมะเร็งเม็ดเลือด แต่จากการให้ข้อมูลของผู้ที่ไปเจอศพครูอ๊อดในรายการโหนกระแสสดทางเพจ Facebook นั้น กล่าวว่า เธอไปเห็นสภาพศพครูอ๊อด ในสภาพนอนหงาย มีน้ำไหลยู่ข้างแก้ม
ทีแรกนั้นไม่เห็นว่าเล็บดำหรือไม่ ? แต่หลังทราบข่าวไปดูภาพที่ญาติถ่ายไว้ ได้ดูเมื่อวานนี้ปรากฏ “เล็บดำ” ซึ่งข้อมูลก็ไปตรงกับเหยื่ออีกหลายรายที่เสียชีวิตในคดีสุดเยือกเย็นนี้
ทั้งนี้ ในส่วนข้อมูลของ มิ้งโชว์ห่วย ซึ่งมีชื่อปรากฏตามภาพที่เผยแพร่ในโซเชียลที่เป็นลิสต์รายชื่อลูกแชร์ของ นางสรารัตน์ ตอนนี้จากการแจ้งข่าวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวยืนยันว่า ลูกแชร์รายนี้ปลอดภัยแล้ว
ด้าน อาจารย์ ปรเมศวร์ อินทร อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวในแง่ทิศทางของคดีว่า กรณีแบบนี้ ความเชื่อมโยงทั้งหมดแทบจะชี้ชัดได้เกือบหมด
คดีของ น.ส.ก้อย ที่เป็นข่าวพบพิรุธหนักจนขยายผลพบเหยื่อเสียชีวิตคล้ายกันอีกหลายศพ คดีนี้แน่นอนมีหลักฐานแล้ว เอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน ส่วนศพอื่นๆ ที่ขาดเรื่องหลักฐาน แต่มุมมนี้ อัยการอาวุโสฯ ก็อธิบายว่า แค่คดีเดียวก็โทษประหารแล้ว
ส่วนคดีอื่น อ.ปรเมศวร์ ดูจากพฤติการณ์ทำให้เชื่อได้ว่า คนกอ่เหตุคือคนๆ เดียวกัน ทำใหห้คดีไม่จำเป็นต้องมีประจักพยาน การกระทำมูลเหตุจูงใจ คือ การประสงค์ต่อทรัพย์สิน
ขณะเดียวกันช่วงท้าย อ.ปรเมศวร์ ยังได้ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตเรื่องการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งไม่รอบคอบมาตั้งแต่ต้น
และหากนำคดีนี้มาถอดบทเรียน ครั้งหน้าหรือคดีต่อๆ ไป หากพบว่า คนในคอรบครัวหรือคนรู้จักเสียขชีวิตโดยที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด 100% ขอให้ทางญาติผู้เสียชีวิต อย่าไปบอกไม่ติดใจการตายไม่ได้ และขอร้องอย่าเพิ่งรีบนำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาจนกว่าจะมีการผ่าพิสูจน์จนเสร็จสิ้นกระบวนการจนทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัดแล้วเสียก่อน.
- โหนกระแส คดีแอม เปิดหลักฐานใหม่วันวางยา เผยดับแล้ว 12 ศพ
- เหยื่อแฉ แอม อ้างให้ยาแก้โควิด กินได้ 30 นาทีอาการออก
- รองผู้กำกับ อดีตสามีแอม นำค้นบ้านพักก่อนพบหลักฐานใหม่