‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ดีเบต ไม่เห็นด้วยยกเลิกเกณฑ์ทหาร เจอชาวเน็ตวิจารณ์ยับ
ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับเวทีดีเบตเรื่องการเมืองที่จัดโดย เดลินิวส์ x มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ภายใต้หัวข้อ “New Voter กับอนาคตที่กำหนดได้” เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากตัวแทนพรรคการเมือง 9 พรรคมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ของพรรค
และที่เห็นจะเป็นประเด็นที่สังคมพูดถึงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นการตอบคำถามของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” นักร้องและนักแสดงที่ผันตัวเข้าสู่การเมือง โดยเป็นหนึ่งในผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เขต 22 (สวนหลวง-ประเวศ) หลายเลขเบอร์ 1 จากพรรคพลังประชารัฐ ที่พูดถึงประเด็นการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยใช้ความสมัครใจแทนไว้ว่า ทางพรรคมีมติไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเกณฑ์ทหาร เนื่องจากเป็นเรื่องความมั่นคงระดับประเทศ ความว่า
“หากตนเป็นวัยรุ่นที่ได้ฟังนโยบายนี้คงถูกใจ แต่วันนี้ในฐานะนักการเมืองที่อยู่ภายใต้พรรคพลังประชารัฐที่ไม่มีนโยบายดังกล่าว และผ่านการหารือในที่ประชุมมาแล้วว่าไม่เห็นชอบ การเกณฑ์ทหารเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน พื้นที่ชายแดนยังคงมีการถูกรุกล้ำ และมีการแทรกแซงเกิดขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องมีการเกณฑ์ทหารอยู่ นี่คือเรื่องที่ทำไมกองทัพทหารจะต้องมีเยอะ หรือต้องมีเยอะ
การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากกว่านั้น ตนไม่ได้มองเพียงแค่สมัครใจหรือไม่สมัครใจ แต่การเกณฑ์ทหารเป็นการสร้างเสริมระเบียบวินัย และความรักชาติให้ชาวไทย แต่สามารถเข้ามาแก้ไขกองทัพในบางส่วนได้
หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า จะเกณฑ์ทหารจำนวนมากไปรบกับใคร กับในยุคที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้ตนอยากอธิบายว่าในบางประเทศที่เจริญแล้ว ขณะนี้ยังเกิดสงครามอยู่ หากไม่มีทหารก็ไร้คนสู้รบ และไร้คนเฝ้าชายแดน
ทหารก็ยังลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนอยู่ ไปทำความดี ในเรื่องปัญหาหรือธรรมชาติต่าง ๆ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แล้วถ้าเกิดไม่มีทหาร ใครจะไปอยู่ตามชายแดน ใครจะไปดูแลประชาชน”
ทั้งนี้คำพูดของฟิล์มก็ในประเด็นไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเกณฑ์ทหารนั้น ก็ได้กลายมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในเวลาต่อมา โดยทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง ซีนิว วิวเว่อร์ 4K ก็ได้ยกคำพูดของฟิล์มที่กล่าวในเวทีดีเบจมาพูดถึงอีกครั้ง ซึ่งก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปแสกงความคิดเห็น
เช่น “อย่าเอาสิ่งที่ตัวเองเคยเจอแค่นิดเดียวมาตัดสินแทนคนทั้งประเทศที่ต้องเจอในอนาคต มันควรเปลี่ยนไปในทางที่ดีไม่ใช่ดักดาน สมองติดลบมาก” , “โอ้ยยย เขายกเลิก ‘วิธีการ’ เป็นทหาร จากบังคับเกณฑ์ เปลี่ยนเป็น ให้สมัครใจแทน ไม่ได้หมายถึงให้ยกเลิกไม่มีทหาร แค่นี้เข้าใจยากตรงไหนวะ” , “ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นจะได้ตัดช้อยง่ายๆ” , “เขาเลิกเกณฑ์ เขาไม่ได้ยกเลิกทหาร โอ้ยน้อออออ สู!! ฟังบ่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดน้อออออ” เป็นต้น
ก็ถือได้ว่าเป็นการดีเบตที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากประเด็นของกองทัพโดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหารนั้นเป็นที่ถกเถียงกันมาเนิ่นนาน แต่นโยบายของพรรคใดจะชนะใจประชาชนได้นั้น ก็คงต้องติดตามกันหลังผลเลือกตั้งออกอีกที