‘ดีเจแมน-ใบเตย’ ร่ำไห้ ชี้แจงปม Forex-3D หวั่นใจกลัวไม่ได้ประกันตัว
ดีเจแมน – ใบเตย อาร์สยาม เปิดใจปม Forex-3D ร่ำไห้ขอโอกาสต่อสู้ ยันที่ผ่านมาไม่เคยคิดหนี ให้ความร่วมมือมาตลอด อยากรู้ว่าความจริงจะปกป้องเราไหม อยากต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
จากกรณีที่กรมสอบสวนพิเศษ (DSI) สั่งฟ้อง ดีเจแมน พัฒนพล และ ใบเตย อาร์สยาม หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับคดี Forex-3D อย่างชัดเจน ล่าสุด ทั้งคู่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมด้วย ทนายอมร กุศล และ ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องชายของใบเตย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดย ดีเจแมน เผยว่า “ขอเท้าความไปที่จุดเริ่มต้นของการรู้จักกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร Forex-3D คือ สมัยที่ตนทำดีเจอยู่ที่คลื่นหนึ่ง นายอภิรักษ์ได้เข้ามาพบ เข้ามาพูดคุย มาเป็นแฟนคลับและยังนำพระมาให้ รวมถึงยังทักมาในอินสตาแกรมเรื่อย ๆ ซึ่งนายอภิรักษ์ก็ชื่นชอบพระเครื่องเช่นเดียวกันกับผม ส่วนประเด็นเรื่องเส้นทางการเงินที่สังคมสงสัย”
“ผมและใบเตยได้ชี้แจงหมดทุกประเด็นกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมาตลอด โดยที่ผมไปเกี่ยวข้องก็เนื่องมาจากนายอภิรักษ์ได้มาเช่าพระทั้งหมด 4 องค์กับผม เลยปรากฏเป็นเส้นทางการเงิน จึงเป็นเหตุให้ดีเอสไอออกหมายเรียกตนในทีเเรกในฐานะพยาน ก่อนเปลี่ยนสถานะเป็นหมายเรียกผู้ต้องหา”
ดีเจแมน ยังกล่าวถึงรูปที่มีการไปทานข้าวกับนายอภิรักษ์ว่า “เขาติดต่อเรามาและเขาขอตามมา ส่วนเรื่องรูปภาพการประชุมนั้น ในวันดังกล่าวเป็นการประชุมเรื่องถังเช่า และเขาอยากให้ตนทำการตลาดในเชิงธุรกิจให้ ส่วนอีกหนึ่งรูปที่ปรากฏภาพผมใส่เสื้อแขนสั้นนั่งอยู่โต๊ะประชุม เนื่องจากผมทำเกี่ยวกับมูลนิธิมานาน คือ มูลนิธิเกี่ยวกับเด็กพิการซ้ำซ้อน โดยทำก่อนรู้จักกับนายอภิรักษ์ ซึ่งนายอภิรักษ์ทราบว่าตนทำเกี่ยวกับมูลนิธิ เขาจึงมาเชิญชวนเพราะอยากทำมูลนิธิ ผมจึงไปร่วมทำมูลนิธิกับเขาด้วย”
ทั้งนี้ ดีเจแมน ย้ำว่า “เราไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่นายอภิรักษ์ทำนั้น จะสร้างความเสียหายเช่นนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็อยากขอโทษ อีกทั้งตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เราให้การเป็นประโยชน์ต่อดีเอสไอเป็นอย่างมาก แค่ไม่ได้มาออกสื่อ และเราชี้แจงได้หมดว่าเงินงานแต่งงานคือเงินอะไร มีเอสสารพยานหลักฐาน มีพยานบุคคลด้วย อย่างไรก็ตามประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา พอถูกแจ้งข้อหา เราก็ยินดีชี้แจง ขอแค่ความยุติธรรมในการต่อสู้ ขอให้อัยการอ่านสำนวนให้ละเอียด เพื่อให้เราทั้งคู่ได้ต่อสู้เต็มที่”
“ในวันพรุ่งนี้ เราไม่ทราบว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร แต่มีน้องโทรศัพท์ให้เตรียมหลักทรัพย์ และถ้าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้การที่เราได้ชี้แจงในวันนี้ เพื่อต้องการโอกาสในการต่อสู้ ที่ผ่านมา เราไม่เคยหนีและไปตามเวลานัดหมายตลอด ให้ความร่วมมืออย่างดีตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนจนชั้นอัยการ เราสู้ด้วยความจริงมาตลอด และจะดูว่าความจริงจะปกป้องเราหรือไม่ ส่วนที่กังวลตอนนี้ คือ หากมีการสั่งฟ้อง เรากลัวว่าเราจะไม่ได้รับความยุติธรรม จึงขอแค่ได้ประกันตัวมาสู้ข้างนอก”
ดีเจแมน ได้กล่าวอีกว่า “เราห่วงลูกสาวมาก เราทำคอนเทนต์ เราก็ห่วงเรื่องสปอนเซอร์และสายตาคนอื่น อีกทั้งคอมเมนต์ที่ส่งผลต่อเด็กคนหนึ่งที่จะเติบโตในอนาคต หากเสิร์จข่าว ก็จะเจออะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นการกล่าวหา อย่างไรคงต้องเป็นดุลพินิจจากพนักงานอัยการ และหลังจากวันพรุ่งนี้ สิ่งที่ทำร้ายเรามาทั้งหมด หากมีการพิสูจน์แล้วว่าเราสองคนบริสุทธิ์ เราทั้งคู่จะขอความยุติธรรมคืน โดยการขอใช้กฎหมายกับบางคนที่ทำร้ายครอบครัวเรา ซึ่งเราได้รวบรวมไว้แล้ว 2 ปี”
ขณะที่ ใบเตย อาร์สยาม กล่าวว่า “หนูรู้จักนายอภิรักษ์ เพราะเป็นเพื่อนกับดีเจแมน ส่วน 7 ปีที่ผ่านมา ของเรื่อง Forex-3D ขอแบ่งเป็น 4 ประเภท 1.ผู้ลงทุน 2.ผู้เสียหาย 3.ผู้มารับผลประโยชน์ และ 4.เพื่อนของผู้บริหาร โดยดีเจแมนเป็นผู้ลงทุนและยังเป็นผู้เสียหายด้วย”
“แต่พอเริ่มจากความเป็นพี่น้องกับนายอภิรักษ์ เราเลยไม่ได้แจ้งความเอาผิดเขา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ และที่ผ่านมา ไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่นายอภิรักษ์ทำเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และจะมีมูลค่าความเสียหายและผู้เสียหายมากขนาดนี้”
“เราได้เห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ มาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ไปดีเอสไอ (วันแจ้งข้อกล่าวหา) มีคนเข้าใจผิดเยอะว่าเราไปเกี่ยวข้องกับบริษัทที่นายอภิรักษ์ทำ ซึ่งความจริงแล้ว เราทั้งคู่ไม่มีชื่อหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทของForex-3D ไม่เหมือนกับ 19 คนแรกที่ผ่านมา และที่สำคัญเราไม่มีลูกทีม หรือ ดาวน์ไลน์ เพราะเราไม่ได้ชักชวนใครเลยสักคนให้มาลงทุน และถ้ามี ขอให้นำหลักฐานมาโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชนได้เลย”
“ที่เคยระบุไปว่าไม่เกี่ยวข้องเรื่องการเงินนั้น เพราะเราไม่เกี่ยวกับเส้นทางเงินจากบริษัทโดยตรงไม่ได้เปอร์เซ็นต์สักบาทเดียว ส่วนเส้นทางการเงินที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษแจ้งมา คือ ยอดเงิน 900,000 บาทจากนายอภิรักษ์ ซึ่งโอนเข้ามาในบัญชีธนาคารของตน มีสามรายการ คือ 1.ยอดกระเป๋า 5.5 แสนบาท 2.ยอดค่าตั๋วเครื่องบิน และ 3.ยอดเงินที่เราโอนกลับคืนให้อดีตภรรยานายอภิรักษ์”
“เพราะเขารูดบัตรซื้อของให้เราก่อน เราจึงต้องคืนเงินไป ส่วนดีเจแมนมีแต่ค่าเช่าพระ 4 องค์ ราคา 13 ล้านบาท ในระยะเวลา 4 ปี มันมีแค่นั้น ทั้งนี้ พยานหลักฐานทั้งหมดนี้เราได้ยื่นทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารลายลักษณ์อักษรไปหมดแล้ว”
“เราไปเที่ยวเมืองนอกตั้งแต่ปี 2013 ไปเท่าที่เรามีกำลังในการเที่ยว ก่อนจะมารู้จักนายอภิรักษ์ และธุรกิจ Forex-3D ตนอยากบอกสังคม บอกแฟนคลับ สื่อมวลชน ที่เห็นตนมาตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว ในวันที่ 19 ส.ค. 65 ที่ตนและดีเจแมนเข้ารับทราบข้อหานั้น เป็นวันเดียวกับที่เราหมดสัญญากับอาร์เอส และมีงานคอนเสิร์ตเหลือ 2 งาน คือ ที่พัทยา กับ นครศรีธรรมราช”
“ซึ่งสิ่งที่เราชี้แจง เรื่องรายได้ เราอยู่กับบริษัทอาร์เอสมา 17 ปี มันจะเป็นไปไม่ได้ที่เงินตนจะมาจาก Forex-3D จึงอยากบอกว่าเสียใจมากที่เราทำอาชีพสุจริต เป็นศิลปินลูกทุ่ง แต่วันนี้มาโดนข้อหาฉ้อโกงประชาชน เราผิดหวังในตัวเองมากๆ เลยอยากให้ทุกคนได้รับฟังความจริงจากฝั่งเราบ้าง”
โดย ใบเตย กล่าวด้วยเสียงสั่นว่า “ที่เราร้องไห้ในรายการ เพราะตัวเราเจอเรื่อง และครอบครัวทุกคนได้รับผลกระทบ และตนได้รับผลกระทบมากสุด เพราะเป็นแม่คนด้วย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ตนไม่ได้ทำในสิ่งที่ถนัดเลย งานไม่ได้ทำ ตั้งแต่ 19 ส.ค. 65 ที่ถูกกล่าวหา ไม่มีข่าวดี คนรอบตัวทยอยถูกจับ เราเสียใจในหลายๆเรื่อง และก็อยากให้แฟนคลับมองใบเตยกับแมนว่า ไม่ได้เป็นคนโลภในเรื่องนี้ หรือหวังรวย มีเงินในทางการทำงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งทุจริตผิดกฎหมาย เพราะเราทำงานในวงการมาจากความสุจริตทั้งหมด”
ด้าน ทนายความอมร กุศล ได้กล่าวว่า “กรณีที่ก่อนหน้านี้ทั้งดีเจแมน และใบเตย ไม่ได้ตอบคำถามแต่ต้น เพราะเราต้องแสวงหาพยานหลักฐานก่อนพูด ต้องมีหลักฐาน พูดข้อเท็จจริง เราเคารพกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด แม้เกิดอะไรขึ้น พร้อมยืนยันในข้อเท็จจริงที่มี เราเชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่าทั้งคู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน”
ขณะที่ นายชาญวิทย์ ทวีสิน น้องชายและผู้จัดการส่วนตัวของใบเตย กล่าวว่า “ส่วนสาเหตุที่มีการเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้นั้น ที่เราช้าเพราะการขอรายการเดินบัญชี (Statement) จากธนาคารในระยะเวลาย้อนหลัง 4-5 ปี ปกติแล้วธนาคารจะไม่สามารถดำเนินการได้จึงทำให้ต้องไปสำนักงานใหญ่แทน ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้เรามีการเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวชั่วคราวไว้”
“ถ้าจำนวนมันเกินที่เรามี ก็คงยื่นประกันไม่ได้ เราไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น เราทำใจอยู่แล้ว เห็นตัวอย่างมาแล้ว ไม่มีใครรอด วันนี้จึงคิดว่าเป็นเวลาเหมาะสมที่จะพูดเพราะที่ผ่านมาเราได้พยายามรวบรวมหลักฐานครบถ้วน และวันนี้เราต้องการพูดให้คนที่ยังเชื่อและรักเราได้ฟังและได้ยิน หากพรุ่งนี้ไม่รอดก็คือไม่รอด เราทำใจไว้แล้ว”
ภาพจาก Youtube : TVPOOL OFFICIAL