ข่าว

‘ทนายอั๋น’ ยื่น DSI สอบเส้นทางการเงิน ‘ทนายตั้ม’ ชี้งบดุลบริษัท สวนทางวิถีชีวิต

ทนายอั๋น บุก DSI เพื่อยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ เส้นทางการเงิน ทนายตั้ม โดยให้เหตุผลว่างบดุลบริษัท สวนทางวิถีชีวิต ไม่กลัวถ้าจะโดนฟ้องกลับ

นาย ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลังตรวจสอบแล้วพบว่า งบดุลบริษัท Sittra Law Firm ของทนายตั้ม มีงบดุลขาดทุมสะสมมาหลายปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของทนายตั้มและครอบครัวที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราอย่างมาก ไม่ว่าจะด้านเครื่องแต่งกายแบรนด์เนมหรือเดินทางไปต่างประเทศ

Advertisements

ทนายอั๋นได้นำหนังสือพร้อมหลักฐาน เป็นภาพการใช้ชีวิตหรูหรา สวมใส่เสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนม ไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ถูกโพสต์ลงสาธารณะผ่านเฟซบุ๊กของทนายตั้ม รวมถึงเอกสารบัญชีงบดุลของบริษัทที่สืบค้นจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งพบว่ามีผลประกอบการขาดทุนตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มาเป็นหลักฐานให้กับดีเอสไอ มี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

ทนายตั้ม

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตามเอกสารบัญชีงบดุลดังกล่าวที่เปิดเผยในเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าตั้งแต่ปี 2561-2564 พบว่าขาดทุนสะสมทุกปี รวม 470,000 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตหรูหรา อยู่สบายของทนายตั้ม ที่มีทั้งทำตัวไฮโซ มีรถหรู มีคฤหาสน์ราคา 60 ล้าน ซื้อสินค้าแบรนด์เนมครั้งละหลายล้านบาทที่ต่างประเทศ สะสมนาฬิกายี่ห้อดังมูลค่าหลายล้านบาทเช่นกัน ทำให้ตนเองเกิดข้อสงสัยว่า ทนายตั้มมีรายได้พิเศษจากทางใดอีกหรือไม่ นอกเหนือจากรายได้บริษัท รวมถึงการแสดงงบดุลรายได้รายจ่ายของบริษัทที่ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่

ดังนั้น จึงอยากให้ DSI ตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายษิทรา ทั้งรายได้บริษัท Sittra Law Firm จำกัด ,รายได้ส่วนตัว และรายได้จากมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ของทนายตั้ม ทั้ง 3 แหล่งว่าสอดคล้องกันหรือไม่ เข้าลักษณะร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ หรือมีรายได้จากช่องทางใดที่ผิดกฎหมายหรือไม่

พร้อมระบุด้วยว่าตนไม่รู้สึกกังวลหากทนายตั้มจะฟ้องกลับ แม้ว่าจะยังไม่มีความผิดมูลฐานที่ ปปง. จะรับเรื่อง แต่การมายื่นกับ DSI ครั้งนี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งหาก DSI ไม่พบความผิดปกติ ก็จะเป็นผลดีกับทนายตั้มเอง แต่หากพบรายได้ที่ผิดปกติ ก็จะเป็นผลดีต่อสังคม พร้อมขอให้สังคมจับตาดูงบดุลบริษัทปี 2565 ของ Sittra Law Firm ที่จะมีการยื่นภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ว่าจะขาดทุนเช่นเดิม หรือมีเงิน 200-300 ล้านบาทปรากฎเข้ามาในบริษัท และถ้าหากมี ก็อยากทราบว่าเงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าจะทนายตั้มจะมีเงินสีเทาตามที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ขอให้ไปสอบถามนายชูวิทย์เองจะดีที่สุด

Advertisements
ข่าวทนายตั้ม
ภาพ Facebook ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button