หลังจากมีดราม่าสถานีโทรทัศน์ช่องดัง ดึงคนในวงการบันเทิงมาเป็นผู้ประกาศข่าว ทำสังคมเสียงแตก บ้างมองว่าบุคคลเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ได้ดี บ้างมองว่าต้องมีใบผู้ประกาศข่าว และควรจะให้โอกาสคนในวงการก่อน เรื่องนี้ทำชาวเน็ตถกกันสนั่น แม้แต่คนทำข่าวเองก็ยังแบ่งพวกเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ล่าสุด (30 มี.ค. 66) ผู้ประกาศข่าวอาวุโสอย่าง “ต๊ะ-นารากร ติยายน” อดีตผู้ประกาศข่าวช่องไอทีวี ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับใบผู้ประกาศข่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดราม่านี้ด้วยเช่นกัน โดยนารากรได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวว่าปัจจุบันยังมีการสอบใบผู้ประกาศข่าวอยู่
ทว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่ได้บังคับทางสถานีโทรทัศน์ว่าต้องให้ผู้ใบประกาศข่าวเป็นผู้รายงานข่าวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เองแต่ละสถานีโทรทัศน์จึงต้องวางกลยุทธ์เพื่อเรียกเรตติ้ง ผ่านการนำบุคคลที่น่าสนใจมาอ่านข่าว ซึ่งในส่วนนี้ทางนารากรมองว่าใครใคร่ดูก็ดู ใครไม่สะดวกใจดูก็ปิดหรือเปลี่ยนช่องไป ความว่า
“เคลียร์ ชัด ชัด ดราม่าคนอ่านข่าวไม่มีใบผู้ประกาศ มีถามมาหลังไมค์เยอะ ว่าเรามีความเห็นยังไง
ข้อเท็จจริง ทุกวันนี้ยังมีการสอบใบผู้ประกาศ จัดโดยคณะทำงานทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศ โดย กสทช. มีคณะกรรมการให้คะแนน ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ ทำงานอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว มีการทดสอบปีละ 2 ครั้ง
ใครอยากสอบให้ผ่านเพื่อรับบัตรผู้ประกาศต้องทำยังไง?
ต้องสมัครเข้าอบรมหลักสูตรผู้ประกาศ โดยหลักสูตรมี 3 ระดับ ผู้เข้าอบรมต้องผ่านทั้ง 3 ระดับ จึงจะสามารถสมัครเข้าทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศได้
ปัจจุบันนี้ กสทช. ไม่มีกฏเกณฑ์บังคับว่า คนอ่านข่าวทีวีต้องมีบัตรผู้ประกาศ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานีจะคัดเลือกคนมาอ่านข่าวกันเอง
ถ้าสถานีโทรทัศน์เลือกคนอ่านข่าวที่ไม่มีบัตรผู้ประกาศ มาอ่านข่าวหน้าจอละ คนดูควรจะทำยังไง?
ความเห็นส่วนตัว ถ้าชอบก็ดู ไม่ชอบก็ปิดทีวี หรือเปลี่ยนไปดูช่องอื่น ที่คัดเลือกคนอ่านข่าวที่มีคุณภาพ มาอ่านข่าวให้เราฟัง
จบนะ”
หลังจากข้อความของนารากรถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ไปได้เพียงไม่นาน ก็มีเหล่าบรรดาคนวงการข่าวหลายคนออกมาเล่าประสบการณ์การสอบใบผู้ประกาศกันมากมาย โดยหลายคนเล่าว่าในอดีตการสอบใบผู้ประกาศข่าวนั้นค่อนข้างยาก ต้องฝึกฝนจนชำนาญ บางคนซ้อมและเทียวสอบจนสามารถจำแบบทดสอบได้หมด
แต่เมื่อสอบผ่านได้ใบผู้ประกาศข่าวมาครอบครองแล้ว กลับไม่มีสถานีโทรทัศน์แห่งใดถามหา บางคนตัดพ้อว่าคนที่ทุ่มเทฝึกซ้อมสอบใบผู้ประกาศมาได้ ถึงจะมีมาตรฐานในการอ่านข่าวก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือคนที่มีหน้าตาดี ซึ่งทางผู้หลักผู้ใหญ่ก็พร้อมจะให้โอกาสเสมอ
นอกจากนี้บางคอมเมนต์ยังมองว่าการนำคนดังมาอ่านข่าวนั้น ไม่ได้สาระแก่นสารของข่าวเท่าผู้ประกาศข่าวมาอ่านข่าวเอง เนื่องจากการจะเป็นผู้ประกาศข่าวได้ต้องมีทักษะและความรู้รอบตัวกว้างขวาง ซึ่งคนดังจะทำได้เพียงรายงานข่าวหรือเล่าข่าวไปเท่านั้น ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมแตกยอดข่าวใด ๆ ออกไปได้
ทั้งนี้ประเด็นดราม่าดาราอ่านข่าวช่องดัง ก็คงต้องพิจารณากันไปในระยะยาว และมองด้วยมุมมองที่หลากหลาย แม้หลายคนจะออกมาพูดถึงประเด็นนี้ก็ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่าเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ในฐานะมวลชนที่ต้องรับสารจากสื่อ แต่ก็ต้องยึดตามหลักเหตุและผลด้วย
อย่างไรก็ดี หากมีความคืบหน้าในเรื่องนี้เพิ่มเติม ทางเดอะไทยเกอร์จะนำมารายงานให้ทุกท่านในทันที
