ดราม่าผู้ประกาศข่าวช่องดัง เมื่อเรตติ้งไม่ได้การันตีคุณภาพข่าว ทำสังคมเสียงแตก
ดูเหมือนจะเป็นดราม่าที่ถกเถียงกันได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น เมื่อทางสถานีโทรทัศน์ช่องดังดึงตัวคนในวงการบันเทิงนั่งแท่นผู้ประกาศข่าว งานนี้มีทั้งคนชื่นชมเห็นด้วย และคนที่มองสวนกระแสว่าเป็นการแย่งงานคนในวงการข่าวหรือไม่ รวมไปถึงประเด็นอื่น ๆ ที่ตามอีกนับไม่ถ้วน เมื่อคนทำข่าวหลายคนมองว่าหากจะเลือกเรตติ้ง ก็ต้องแลกมาด้วยคุณภาพของข่าวที่ดรอปลง
จุดเริ่มต้นของดราม่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่สถานีข่าวช่องดังแห่งหนึ่งประกาศเปิดตัวดึงเหล่าดารา อินฟลูเอนเซอร์ และนักร้อง มานั่งแท่นเป็นผู้ประกาศข่าวแทนนักข่าวคนเก่าที่ย้ายค่ายไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่เหล่าคนดังได้ออกมาเปิดตัวรายงานข่าววันแรก ก็ส่อแววดราม่ามาแต่ไกล ซึ่งแม้แต่คนในวงการข่าวเองตอนนี้ก็ยังแบ่งกันเป็นสองขั้ว
ด้านผู้ประกาศฝ่ายที่เห็นด้วยกับกลยุทธ์นี้ของสถานีโทรทัศน์ก็ออกมาชื่นชมตัวบุคคลอย่าง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ในฐานะอ่านข่าวครั้งแรกว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทว่าก็ไม่วายมีชาวเน็ตหลายคนถามหาถึงบัตรผู้ประกาศข่าวจากผู้อ่านข่าวหน้าใหม่ทั้ง 4 ท่านนี้ในเวลาต่อมา
และประเด็นนี้ก็เริ่มเป็นที่โต้เถียงในวงกว้างมากขึ้น เมื่อนักข่าวท่านหนึ่งออกมาโพสต์เฟซบุ๊กความว่า “เราอยู่ในยุคที่ผู้ประกาศข่าว ไม่จำเป็นต้องมีพื้นความรู้ข่าว ไม่ต้องพูดอักขระชัด ไม่ต้องเรียนจบสายข่าว ไม่ต้องผ่านภาคสนามมาก่อน เพียงแค่เป็นดารา อินฟูลฯ คนดัง ก็เป็นได้ ฉีกตำราคนข่าวเรียนและฝึกฝนทั้งหมด”
ก่อนที่โพสต์ถัดมาจะร่ายยาวถึงความสำคัญของการให้โอกาสคนในวงการข่าวด้วยกันเองก่อน รวมไปถึงคุณภาพของข่าวอย่างที่ควรจะเป็นเหมือนสื่อยุคเก่า โดยนักข่าวอาวุโสท่านนี้มองว่าผู้ที่จบสายงานเกี่ยวกับข่าวโดยตรง ต้องขวนขวายหาโอกาสโดยการทำข่าวภาคสนามเป็นระยะเวลานานหลายปีเพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของช่องมองเห็นความสามารถ แล้ววันหนึ่งจะได้ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้ประกาศข่าวกับเขาบ้าง
แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความจริงได้ว่าสื่อยุคปัจจุบันนั้นเน้นเกาะติดไปกับกระแสที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากน้อยตามลำดับ ซึ่งในจุดนี้เองที่นักข่าวท่านนี้มองว่าเป็นความย้อนแย้งของวงการข่าวและตัวผู้เสพข่าวเองที่ตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของข่าว ในขณะเดียวกันผู้เสพข่าวเองก็อาจหลงลืมไปว่าตนติดตามข่าวที่อยู่เฉพาะในกระแส หรือติดตามข่าวจากลีลาการอ่านข่าว มากกว่าที่จะเป็นเนื้อหาในเชิงคุณภาพของข่าวนั้น ๆ มากกว่า
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการจะนำเสนอข่าวอย่างมีคุณภาพให้คนในสังคมได้ ไม่ใช่เพียงแค่การทำหน้าที่ “รายงานข่าว” ด้วยลีลาที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์อย่างที่เหล่าคนดังทำเท่านั้น แต่การนำเสนอต้องผ่านกระบวนการคิดและวิเคราะห์ ผ่านการถกเถียงกันในทุกมิติ โดยในส่วนนี้ถือเป็นความสามารถหลักที่คนจากสายงานวงการข่าวได้ฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว ทั้งในห้องเรียนและการลงภาคสนาม
กล่าวคือลีลาการอ่านข่าวที่ถูกใจผู้ชม ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าการนำเสนอข่าวนั้นหรือเนื้อข่าวนั้นมีคุณภาพครบถ้วน และมอบความคิดเชิงวิพากษ์ให้แก่ผู้รับสาร แต่ในส่วนหนึ่งของการเป็นข่าวมันก็ได้ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อเท็จจริงให้แก่ผู้รับสาร ซึ่งตรงนี้เองก็สามารถมองได้ว่าตัวข่าวและผู้ประกาศข่าวได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์แล้ว
เหตุนี้เองจึงอาจทำให้ใคร ๆ หลายคนมองว่า “ใครก็เป็นผู้ประกาศข่าวได้” เพียงแค่รายงานข้อเท็จจริงของข่าวได้อย่างน่าสนใจ ทว่าในมุมมองของคนทำข่าวเอง การนำเสนอข้อเท็จจริงอาจจะยังไม่เพียงพอ ข่าวที่ถูกนำเสนอต้องให้อะไรบางอย่างกับผู้เสพข่าวได้มากกว่านั้น แล้วคุณล่ะมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร