อัปเดต ภาษีน้ำตาล 2566 มีผล 1 เม.ย. เครื่องดื่มน้ำหวานส่อขึ้นราคา
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กรมสรรพสามิต ได้ไฟเขียวขึ้นภาษีน้ำตาล หรือ ภาษีความหวาน ที่จะเก็บอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจากเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลตามที่กำหนด โดยจะมีผลวันที่ 1 เมษายน 2566 นี้
ทางเลือกของผู้ผลิตมี 2 ทางคือ ถ้าไม่ปรับสูตรน้ำตาลในเครื่องดื่มน้ำหวานลง ก็จะต้องเสียอัตราภาษีน้ำตาล 2566 เพิ่มขึ้น ดังนี้
- ปริมาณน้ำตาล 6-8 กรัม คิดอัตราภาษี 0.3 บาทต่อลิตร
- ปริมาณน้ำตาล 8-10 กรัม คิดอัตราภาษี 1 บาทต่อลิตร
- ปริมาณน้ำตาล 10-14 กรัม คิดอัตราภาษี 3 บาทต่อลิตร
- ปริมาณน้ำตาล 14-18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร
- ปริมาณน้ำตาล ตั้งแต่ 18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร
อัตราภาษีนี้จะมีผลถึง 31 มีนาคม 2568 หลังจากนั้นจะปรับในลักษณะอัตราก้าวหน้าทุก ๆ 2 ปี เป้าหมายคือเพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตลงปริมาณอัตราน้ำตาลลง อันจะช่วยลดการเกิดโรคเบาหวานในหมู่ประชากรไทยลง
ข้อมูลจากปี 2565 กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า คนไทยป่วยเบาหวานแล้ว 3.3 ล้านคน จากประชากร 68 ล้านคน และมีแนวโน้มผู้ป่วยใหม่ปีละ 3 แสนคน ขณะที่ทั่วโลกป่วยเบาหวาน 537 ล้านคน เสียชีวิต 1 คน ในทุก ๆ 5 วินาที
ดังนั้นผู้ผลิตที่ไม่ยอมปรับตัวจะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น จนนำไปสู่การทยอยปรับขึ้นราคา และหากสินค้ามีราคาแพง ผู้บริโภคก็จะซื้อน้อยลง และกลายเป็นต้องลดปริมาณน้ำตาลลงในท้ายที่สุดเพื่อคงราคา