ข่าวเศรษฐกิจ

18 มี.ค. ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยื่นอุทธรณ์แล้ว 1 ล้านคน

อัปเดต ความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จทั้งสิ้น 10,058,399 ราย ส่วนผู้ที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ 2 ช่องทาง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ณ วันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านราย

สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. จำนวนทั้งสิ้น 1,063,184 ราย โดยสามารถขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 2 ช่องทาง ได้แก่

  • ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
  • ขออุทธรณ์ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด, ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

สำหรับเดือน มีนาคม 2566 ผู้ลงทะเบียนสามารถขอตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติและขออุทธรณ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัดได้ทุกวัน รวมวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566

สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์สามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ทุกวัน รวมวันเสาร์-อาทิตย์ โดยสาขาทั่วไป ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00 – 16.00 น.

ในส่วนของการยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) ในการยืนยันตัวตนตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร และเมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าทีหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันจันทร์-วันศุกร์ ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการในกรณีที่ภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต

หากผู้ผ่านเกณฑ์ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1-26 มีนาคม 2566 และตรวจสอบแล้วพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด

ช่วงเวลายืนยันตัวตน วันที่เริ่มใช้สิทธิ การได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  • วันที่ 1 มีนาคม – 26 มีนาคม 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 เมษายน 2566
  • วันที่ 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 และจะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้า ฯ) เท่านั้น)
  • วันที่ 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 มิถุนายน และจะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้า ฯ) เท่านั้น)
  • วันที่ 27 พฤษภาคม – 26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม และจะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้า ฯ) เท่านั้น)
  • วันที่ 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้

สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ สามารถขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ขออุทธรณ์ด้วยตัวเอง ผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน

สามารถขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งผู้ไม่ผ่านเกณฑ์จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์

สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการขอตรวจสอบและ/หรือขอแก้ไขข้อมูล โดยจะต้องติดต่อที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ซึ่งผู้อุทธรณ์จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยกระทรวงการคลังจะประมวลผลการอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะประกาศผลการอุทธรณ์ให้ทราบต่อไป

ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ภาพจาก : บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button