นายสัตวแพทย์ เผย สัตว์ป่าได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ป่าไม่น้อยไปกว่ามนุษย์ บางตัวโดนไฟคลอก เกิดบาดแผลรุนแรง จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดการตายที่ทุกข์ทรมาน
วันที่ 9 มีนาคม 2566 เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” โพสต์ข้อความระบุว่า “สัตว์ป่าได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ป่าไม่น้อยไปกว่ามนุษย์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราจะได้ยินข่าวเรื่องไฟป่ากันอยู่บ่อยครั้ง ไฟป่าส่งผลกระทบในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่า หรือเราอาจเรียกว่าไฟไหม้ป่าก็คงไม่ผิด เพราะล้วนมาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งตั้งใจหรือโดยประมาทก็ตาม
นายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า เผยว่า “จากพฤติกรรมและอาการของสัตว์ป่าเมื่อเจอไฟป่า สัตว์ป่าจะตกใจ เพราะความร้อนและควันไฟ ก็จะพากันวิ่งหนี อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะหลบหนีได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกอ่อนและสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า ที่หนีรอดก็ขาดที่อยู่อาศัยรวมไปถึงแหล่งอาหาร และในบางกรณีที่เกิดควันไฟมากๆ จะทำให้สัตว์ป่าแสบตา ตาพร่ามัว หายใจลำบาก สำลักควัน ยิ่งในสัตว์ป่าบางตัวโดนไฟไหม้ หรือโดนไฟคลอก ทำให้เกิดบาดแผลรุนแรง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการตายที่ทุกข์ทรมาน
เมื่อสอบถามว่าหากเราบังเอิญพบสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า เราจะช่วยอย่างไร เบื้องต้นแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือโทร.สายด่วน 1362 ทันที สำหรับการปฐมพยาบาลสัตว์ป่าเมื่อโดนไฟไหม้ ก็จะต้องมีการพิจารณา ดังนี้
แผลไฟไหม้จะทำให้ผิวหนังลอกหลุด สิ่งที่ตามมาคือสัตว์จะเป็นแผลบริเวณกว้าง เสียน้ำได้ง่าย และติดเชื้อเข้าที่แผลได้ง่าย
วิธีการก็คือ ให้ล้างแผลด้วยเบตาดีนเจือจาง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเศษเนื้อเยื่อและเศษหนองออก แล้วพันผ้าพันแผลที่ชุ่มน้ำเกลือพันให้มิดชิด พร้อมยาปฏิชีวนะชนิดครีม บางคนใช้ใบตองสะอาดพันแผลด้านในสุด ก็จะช่วยไม่ให้แผลติดผ้า
และในกรณีที่สัตว์ป่าแสบตา สำลักควันไฟ ให้ทำการใช้ผ้าสะอาดน้ำสะอาดเช็ดและปิดที่ตาเบาๆ และให้สัตว์อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบสัตว์ป่า เช่น แมวดาว เสือปลา นางอาย ลูกกระรอกบิน และลูกหมีควาย ได้รับผลกระทบจากไฟป่า หนีไม่ทัน เช่น ลูกแมวดาวที่ช่วยมาได้นั้น ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าแม่ของมันถูกคนเผาป่าชำแหละไปกินแล้ว ส่วนลูกมีสองตัว ตัวแรกสำลักควันตาย ส่วนตัวที่เหลือก็นำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ดูแล ยังต้องให้นมอยู่เพราะอายุยังน้อย ส่วนตัวอื่นๆ นั้นรอการฟื้นฟูเพื่อเตรียมปล่อยสู่ธรรมชาติต่อไป
น่าสงสารเป็นที่สุด สำหรับกรณีนี้ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ ที่ยังมีคนที่ต้องการเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ป่า หรือหวังผลประโยชน์ทางอ้อมจากการเผาป่าเพื่อทำลายวัชพืช จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ สิ่งมีชีวิตหลายชีวิตที่มีค่า ก็ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากคน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้ หากใครพบหรือทราบว่ามีสัตว์ป่าได้รับผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้ สามารถแจ้งมาที่สายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง”.
ภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
