สรุปแถลงข่าว แพทริคอนันดา โต้ ทำร้ายร่างกายแฟนเก่า
หลังจากก่อนหน้านี้มีสาวปริศนาในอินตาแกรมออกมาโพสต์ไอจีสตอรี่ อ้างว่าเป็นแฟนเก่าถูก แพทริคอนันดา (Patrickananda) ทำร้ายร่างกายและจิตใจจนต้องเข้าโรงพยาบาลนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าแล้ววันนี้ 9 มีนาคม 2566 แพทริคอนันดา พร้อม คาล-นิทัศน์ คงขำ กรรมการผู้จัดการบริษัทวอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวเคลียร์ชัดถึงประเด็นดังกล่าว
แพทริคอนันดา แถลงว่า ผมขอแบ่งเป็น 3 ส่วนนะครับ สำหรับสิ่งที่จะพูดวันนี้ ส่วน 1 ก็คือเรื่องของการคบหากันกับอีกฝ่ายว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ส่วนที่ 2 คลิปกับการทำร้ายร่างกายที่เขาพูดถึงผม ที่เขาโพสต์นะครับ ส่วนที่ 3 การทำร้ายจิตใจ
ส่วนที่ 1 นะครับ เราคบหากันจริง เป็นเรื่องจริง ผมเคยคบหากับคนนี้จริงๆ โดยที่ไม่เคยปิดบังเลย เราคบหากันในช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นน่าจะปี 2017 จนถึงปลายปี 2020 มั้งครับ เกือบๆ 4 ปีที่เราคบหาดูใจกัน ซึ่งเพื่อน ๆ และครอบครัวก็ทราบ
แต่ 2 ปีที่ผ่านมาที่เขาพูดถึงอันนี้ เป็นระยะที่เราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่ว่าเราก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน และก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อน มีหลายช่วงมากๆ ที่สลับกันไป เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก รวมถึงมีหลายอย่างที่เกิดขึ้น
ส่วนที่ 2 ส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดซึ่งก็คือประเด็นการทำร้ายร่างกาย ทั้งคลิปที่เขานำมาลง รวมถึงแคปชั่นว่าผมทำร้ายร่างกาย ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องจริงครับ
ในคลิปเกิดขึ้นนานแล้ว เป็นคลิปเก่า และ ณ วันนั้น วันที่เขาโพสต์ ผมก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย แต่ผมอยู่สตูดิโอทำเพลง คือมันไม่ใช่เหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ มันไม่ได้เกิดขึ้น ณ เวลาที่เขาลง มันเกิดกันคนละเวลา รวมถึงไม่ได้มีความรุนแรง ไม่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นในคลิปนั้น หรือว่าในเหตุการณ์นั้นครับ
ทุกคนน่าจะได้เห็นกันแล้วว่าคลิปนั้นมันมีเพียงแค่ 2 วินาที ซึ่งจริงๆ มันมีเหตุการณ์มากกว่านั้น ที่มันมากกว่า 2 วิ และผมก็ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในคลิปนั้นละกันนะครับ เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นมกราคมปีนี้
เอ่อ… ทางฝ่ายเขามาหาผมที่คอนโดและก็อยากจะพูดคุยด้วยในเวลาตอนเช้า ประมาณตี 5 ถึง 6 โมง แต่ผมก็ถามเขาว่าทำไมถึงไม่นัดมาก่อน เพราะผมง่วงนอน มันไม่ใช่เวลาปกติที่ผมตื่น
ที่มีการถ่ายคลิปหรือว่ามีการปัดกล้อง มันเป็นเพราะว่าผมเอากุญแจรถเขามา เหตุการณ์คือผมไปเอากุญแจรถเขามาเพราะว่าผมไม่อยากให้เขาขับรถ ตอนนั้นเขาจะกลับบ้าน แต่ผมบอกเขาว่าผมไม่อยากให้เขาขับรถกลับเอง เพราะเขาอยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการขับขี่ยานพาหนะ ผมเลยบอกว่าเราขอกุญแจเธอนะ เพราะเราไม่อยากให้เธอขับรถ เดี๋ยวจะขอโทรหาคุณแม่ให้มารับ จถึงจะคืนกุญแจให้
มันก็มีปากเสียงกันนิดหน่อย ตรงที่เขาไม่ได้อยากให้คุณแม่มารับ หรือว่ามารู้เกี่ยวกับตรงนี้ แต่ผมก็ยืนยันว่าผมจะไม่ให้เขาขับเอง เขาก็เลยไม่พอใจนิดหน่อย มีการทะเลาะกันนิดหน่อย แต่ว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว แม่เขาก็มามารับเขากลับ ประมาณนี้ครับ
นอกจากเหตุการณ์ในคลิปนั้นที่ผมไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาแล้ว ผมก็ยังไม่เคยใช้ความรุนแรง ไปจนถึงทำร้ายร่างกายผู้หญิงหรือว่าใครเลย ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น ผมไม่สนับสนุนความรุนแรงครับผม
ทำไมเขาถึงได้อ้างว่าเราทำร้ายร่างกายเขา ?
แพทริคอนันดาตอบว่า ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจโพสต์ ผมก็ต้องเล่าว่า ณ หนึ่งวันก่อนที่เขาจะโพสต์ เราได้มีการพูดคุยกันหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานานมากๆ แล้ว เขาทักมาหาผมเพื่อที่จะบอกว่ามีของของของผมที่ยังอยู่กับเขา และเขาอยากจะส่งคืนให้ เขาเลยมาขอที่อยู่ ซึ่งผมก็พิมพ์ที่อยู่ส่งให้เขา
ทีนี้ผมก็เลยถือโอกาสที่จะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของเขา ประมาณว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า เขาเหนื่อย
จากนั้นผมก็บอกว่าผมมีอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะพูดกับเขา คือผมอยากให้กำลังใจเขา ผมเลยพูดถึงเรื่องเก่าๆ ผมพูดถึงเรื่องที่เราเคยคบกัน ผมบอกเขาว่า ณ วันที่เราคบกันเธอเป็นคนที่เก่งมากเธอรู้ตัวไหม เพราะว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจเรื่องเพลงมากๆ เขาเป็นคนที่อินกับเพลงมากๆ และเป็นคนน่ารัก เป็นคนมุ่งมั่น จำคำเฉพาะไม่ได้ คือมันเป็นการชื่นชมเขาในหลายๆ อย่าง รวมถึงผมพูดด้วยว่า ณ ตอนนั้นเขาเป็นแฟนที่ดี
ทีนี้เขาคิดมันเหมือนกับผมไปพูดให้เขารู้สึกดี พูดให้ความหวังเขา ซึ่งเขาบอกว่า เขายังรู้สึกไม่โอเค ทำไมถึงมาพูดแบบนี้ ซึ่งผมก็รู้สึกผิดตรงนี้แล้วก็ขอโทษเขา ผมขอโทษจริงๆ ที่ผมไม่รู้ว่าเขายังไม่โอเค แต่ที่ผมพูดเพราะผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมชื่นชมเขาจริงๆ และไม่ได้คิดที่จะเล่นกับความรู้สึกของเขา แต่เมื่อเขาก็รู้สึกไม่ดีผมก็เข้าใจได้ เพราะเรื่องของความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่พูดยาก ขณะะที่ตัวผมเองก็พยายามขอโทษเขา ผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะให้เขารู้สึกแย่หรืออะไรเลย
คิดว่าเกิดจากเหตุการณ์นี้ใช่ไหมที่ทำให้เขาไม่พอใจและออกมาโพสต์ ?
เอ่อ… ใช่ครับ คือเขาแค่ไม่แฮปปี้เท่าไหร่ที่ผมพูดอย่างนั้น เหมือนผมไปให้ความหวังเขา แต่ผมเปล่าจริงๆ ผมพยายามอธิบายแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้าผมไปก้าวก่ายหรือไปทำอะไรให้ผมก็ต้องขอโทษ แล้วเราก็มีการทะเลาะกันนิดหน่อยหลังจากที่ผมพยายามขอโทษเขา คือผมอาจจะผิดตรงที่ผมไม่ได้นึกถึงความรู้สึกเขาครับ
เหมือนเขารู้สึกว่าเราพูดไปพูดให้ความหวังเขา ?
แพทริคปฏิเสธชัดว่า ไม่ครับ เขาเป็นคนที่มีสภาพจิตใจที่เปราะบางนะ เขารักผมมากซึ่งผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เขารู้สึกแย่
ฝ่ายหญิงเขาอาจจะเข้าใจผิดหรือคิดไปเองจึงทำให้เกิดเรื่องใช่ไหม ?
ไม่ครับ ผมมองว่ามันเป็นที่ผมที่ไม่เข้าใจเขามากเท่าที่ควร ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกและกันครับที่เคยทำให้เขารู้สึกอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทะเลาะกันเรื่องนี้หลังจากที่เราเลิกกัน คือผมจะเป็นคนที่พูดสิ่งดีๆ กับเขาเสมอแม้ในวันที่เราเลิกกัน แล้วบางทีก็อาจจะพูดเยอะเกินไปด้วย แต่ผมไม่เคยมีความคิดที่จะเล่นกับความรู้สึกเขาเลย
สามารถยืนยันได้ไหมว่าแค่มีปากเสียงกัน แต่ไม่เคยใช้ความรุนแรง ?
ใช่ครับ เป็นอย่างนั้นเสมอ ผมไม่เคยลงไม้ลงมือ ผมอาจจะเคยเป็นคนที่อารมณ์ร้อน แต่ ณ วันนี้ผมไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนแล้ว เวลาทะเลาะกันหรือเวลามีปากเสียงกันผมไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลย หรือกับผู้หญิงคนไหน หรือใครก็แล้วแต่ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น
มั่นใจใช่ไหมว่าเขาจะไม่มีคลิปการทำร้ายร่างกายปล่อยออกมาทีหลัง
ไม่มีครับ ผมไม่เคยลงไม้ลงมือไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ไม่ว่าจะโมโห หรือว่าโกรธกัน เวลามีปากเสียงกัน ไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาเลย
ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ออกมาเราได้พูดคุยกันบ้างหรือยัง ?
แพทริคตอบว่า หลังจากที่เขาโพสต์ผมก็ได้โทรไปหาเขา และเราก็ได้พูดคุยกันประมาณหนึ่งด้วยความใจเย็น ณ ตอนนั้นผมสับสนมากๆ แล้วก็ไม่ได้คิดด้วยว่าเรื่องราวมันจะมาไกลขนาดนี้ ผมไม่โกรธเขา แต่ผมแค่รู้สึกสับสน และก็เสียใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ซึ่งเขาก็ยืนยันว่า เขาเจ็บมาเยอะแล้วกับการให้ความหวังของผม
เกี่ยวข้องกับการที่ช่วงนี้เรามีชื่อเสียงแล้วเป็นที่รู้จักมากขึ้น สกัดดาวรุ่งเราหรือเปล่า
ผมคิดแทนเขาไม่ได้ครับเรื่องนี้ เขาอาจจะมีเจตนาหรือเหตุผลอื่น
หลังจากที่ได้คุยกันแล้วเรารู้สึกสบายใจขึ้นไหม
ผมก็ขอให้เขาลบ แต่เขาบอกประมาณว่าเดี๋ยวลองดู
พ่อจะเล่าได้ไหมว่าช่วงเวลา 4 ปีที่คบกันความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ?
แพทริค – คนนี้เป็นแฟนคนที่ 3 สมัยเรียนมหาลัย หอพัก เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง 4 ปีเราอยู่ด้วยกันทุกวัน ซึ่งมันก็เป็นความรักที่ดี แต่ไม่เพอร์เฟค ซึ่งผมก็บอกได้ว่าเขาคือสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยทำร้ายร่างกาย
ตอนที่เลิกกันเลิก จบกันด้วยดีไหม
ไม่ดีเท่าไหร่ครับ เราจบกันด้วยการทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน ซึ่งผมเป็นคนขอแยกทาง และเขาก็มาง้อผม รวมถึงมีตอนที่เขาไม่ได้ง้อแล้ว แต่ผมไปง้อเขากลับ ง้อให้มากลับมาคุยกัน คือมันเป็นช่วงเวลาที่สับสนมากๆ คือเขามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตผมมากๆ เลยนะ
สภาพจิตใจของเขาที่เราบอกว่าเปราะบาง เราทราบไหมว่าเกิดขึ้นจากอะไร ?
เขาเป็นคนที่สภาพจิตใจเปราะบางมาตั้งแต่ตอนที่เรารู้จักกันแล้วครับ เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมค่อนข้างสูงเวลาที่เขารู้สึกอะไรบางอย่าง แต่ในความเป็นจริงก็คือ การที่ผมขอแยกทางกับเขา มันทำให้เขาเจ็บปวดมากๆ
เรื่องนั้นผมทราบดีครับ แต่พร้อมเขาเป็นคนที่ผมเคยคบหา ผมก็เลยไม่ได้ ไม่ได้… แต่เท่าที่ผมทราบ ผมทราบว่าทางค่ายได้ติดต่อไปคุยกับเขาและคุณแม่เขาแล้วครับ
หลังจากที่ทางค่ายไปคุย น้องเขามีท่าทียังไง
คาล ตอบว่า ตัวผมเองไม่ได้เป็นคนไปคุย แต่เป็นทีมงานที่เขารู้จักกับน้องและคุณแม่เป็นคนไปคุย ซึ่งก็อย่างที่แพทริคได้เล่ามันเป็นเรื่องของหัวใจ และตัวผมเองก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายได้คุยกัน ให้เขาได้มาเคลียร์กัน คือเราไม่อยากจะตัดสินอะไร และพยายามคิดในแง่ที่มันดีที่สุด
วิธีที่ใช้ก็คือ ใช้การพูดคุยกันเป็นหลัก
แพทริค ตอบว่า ใช่ครับ ยังไม่ได้มีการดำเนินคดี
ก็คือทางค่ายไม่ได้มีความคิดที่จะฟ้องร้องน้องผู้หญิงในด้านกฎหมาย ?
คาล – เราคิดว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้จำเป็นที่จะต้องไปถึงขั้นตอนนั้นครับ ตอนนี้เรามีข้อมูลเท่าที่มี และก็หวังว่าจะได้มีโอกาสมาเคลียร์กัน
เราอยากให้เขาออกมาขอโทษเราไหม ?
ผมคิดว่า… เขาควรจะออกมาชี้แจงว่าเรื่องจริงคืออะไร โอเค เขาอาจจะโมโหผม หรืออาจจะใจร้อนเลยลงรูปหรือคลิปและเขียนแคปชั่นอย่างนั้น ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริง
ตัวเราเองรู้สึกอย่างไรบ้างที่ถูกเข้าใจไปแล้วว่าทำร้ายผู้หญิง ?
แพทริคตอบว่า เสียใจครับ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่กระทบจิตใจ เวลาเปิดเข้าไปในทวิตเตอร์และมีคนต่อว่า รวมถึงตีตราว่าผมเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้น
สภาพจิตใจของเราเป็นอย่างไรบ้างตลอดหลายวันที่ผ่านมา ?
ก็ไม่ค่อยได้นอนครับ นอนน้อย เพราะผมก็อ่านกระแสหรืออ่านคอมเมนต์ต่างๆ ในทวิตเตอร์ด้วยเหมือนกัน คือด้วยความที่ผมไม่เคยเจอกับอะไรแบบนี้มาก่อน
มีอะไรอยากจะฝากบอกถึงคนที่ติดตามข่าวไหม
ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะสามารถเอาอะไรมายืนยันได้มากกว่าแค่ผมบอกว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายใครจริงๆ และระหว่างที่เราคบกัน เราก็อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอด อยู่ในสายตาของเพื่อนๆ ตลอด และไม่เคยมีใครได้เห็นรอยฟกช้ำบนหน้าตาของเขาแน่นอน ผมกล้ายืนยัน
ตัวเราเองเจ็บจากเหตุการณ์นี้มากไหมกับการที่เขาโพสต์ข้อความหรือคลิปต่างๆ ออกมา ?
ผมไม่รู้นะครับว่าเขาคาดหวังให้ผมเจ็บหรือเปล่า แต่ผมก็รู้สึกเสียใจคนที่เคยรักกัน คนที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้ผมในการเขียนเพลง ผมแค่รู้สึกว่าผมเข้าใจเขานะที่เขาจะรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของผม หรือรู้สึกว่าผมให้ความหวังเขา แต่ผมก็แค่รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องถึงขั้นบิดเบือนความจริงหรือเปล่า หรือบอกกับสาธารณชนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับตัวผมเหรอ ผมแค่เสียใจครับ
ยังสามารถเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม ?
แพทริคอนันดา ปิดท้ายว่า เอ่อ… ให้เป็นเรื่องของเวลาดีกว่าครับ